จากกรณีที่พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ รับมอบตัว ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 จ.อุบลราชธานี เพื่อดำเนินคดีใน 4 ข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำของ น.ส.จุฑาภรณ์ หรืออ้อย อุ่นอ่อน ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งผู้กองเหน่งปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ล่าสุดเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ศรีสะเกษ ตรวจพบคราบเลือดที่เบาะหลังรถเก๋งของน.ส.จุฑาภรณ์ ที่ขับขี่ก่อนหายตัวไป และได้ส่งรถไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 ตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น อ่านข่าว เปิดรถอีกรอบ คราบเลือดเปรอะทั่วเบาะ ผอ.อ้อย เร่งเก็บหลักฐานสืบเพิ่ม (คลิป)

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ร.อ.ศุภชัย หรือผู้กองเหน่ง ภาโส ตำแหน่ง ผบ.ร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาคดีนี้ พร้อมด้วยพ.ท.สุวิทย์ ขำคม นายทหารพระธรรมนูญ และ พ.ท.วันชัย ปรีวัน เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 เดินทางมาพบกับ พ.ต.อ.ชัย ไชยพันธ์นา ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ตามนัด และเป็นการรายงานตัวครั้งที่ 1 ในรอบ 12 วัน

ซึ่งพนักงานสอบสวนได้จัดให้ร.อ.ศุภชัยพิมพ์ลายนิ้วมือทั้งสองข้าง เพื่อจะส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐานตรวจเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือแฝง กับวัตถุพยานสำคัญและรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส หมายเลขทะเบียน กษ8201 เชียงใหม่ จากนั้นร.อ.ศุภชัยและคณะ ได้เดินทางกลับไปทันที โดยใช้เวลาในการเข้าพบพนักงานสอบสวนประมาณ 20 นาทีเท่านั้น

ด้าน นายบัวกัน อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อาของน.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า จนถึงบัดนี้บรรดาญาติพี่น้องและสามีของน.ส.จุฑาภรณ์ ยังคงติดตามหาตัวน.ส.จุฑาภรณ์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวานนี้ไปค้นหาที่จ.ศรีสะเกษ เพื่อหาร่องรอยหลักฐานของผู้สูญหายที่บริเวณห้วยผึ้ง ทิศตะวันตกของฐานปฏิบัติการชายชาญ และที่บริเวณสำนักสงฆ์เก่า ซึ่งเป็นบริเวณที่ จนท.ตร.ชุดสืบสวน แจ้งว่าเป็นจุดสุดท้ายก่อนที่สัญญาณโทรศัพท์ของน.ส.จุฑาภรณ์ จะขาดหายไป

จากคำทำนายตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ของญาติ ผลการค้นหาไม่พบร่องรอยและหลักฐานของผู้สูญหายแต่อย่างใด ต่อมาญาติพี่น้องเดินทางไปที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยจันลา บ้านแข้ด่อน ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการขุดหลุมฝังกลบและมีกลิ่นเหม็น จากการตรวจสอบกับนายบุญเลิศ บัณฑิต ผญบ.ม.10 บ้านจันลา ต.โดมประดิษฐ์ แล้ว ทราบว่าเป็นหลุมฝังวัวที่ตายจากการป่วยเป็นโรค จึงร่วมกับชาวบ้านนำมาฝังกลบที่บริเวณดังกล่าว ไม่ใช่เป็นศพของคนแต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน