ความคืบหน้าการติดตามหา ผอ.อ้อย เพื่อลูกสาว แม่แหลมสิ้นเงินใช้ตามหาลูกแล้วกว่า 2 แสนบาทเศษ แต่พร้อมสู้ต่อ หยิบยืมเงินจากเพื่อนบ้าน หวังว่าจะตามหาลูกสาวจนพบให้ได้ ถามคนก่อเหตุจิตใจทำด้วยอะไรปล้นเงินแล้วยังทำร้ายได้แม้แต่เพศแม่ของตนเอง เชื่อกรรมตามสนองในเร็วๆ นี้ ขณะที่ ดีเอสไอ ลงพื้นที่เตรียมหาหลักฐานมัดผู้กองหนุ่มแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่บรรดาพ่อแม่ญาติพี่น้องของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พยายามพากันพลิกแผ่นดินพลิกป่าเพื่อตามหา น.ส.จุฑาภรณ์ ที่หายตัวไปนานร่วม 2 เดือนแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตร.กองปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตร.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้ร่วมกันติดตามสืบหาทุกแห่ง ในจุดที่สงสัย ล่าสุดได้นำเอาร่างทรงมาเข้าทรงและได้มีการระบุว่า น.ส.จุฑาภรณ์ อยู่ในน้ำ ภายในร่องระบายแห่งหนึ่งที่เขต อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 28 ส.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 65 บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แม้ว่าเวลาจะดึกมากแล้ว แต่ว่าบรรดาญาติพี่น้องของ นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี และนางแหลม อุ่นอ่อน อายุ 60 ปี ยังคงมาเยี่ยมและให้กำลังใจกับนายบุญเลิศและนางแหลม พ่อและแม่ของ น.ส.จุฑาภรณ์อย่างอบอุ่น ทำให้นายบุญเลิศและนางแหลม คลายความเศร้าโศกเสียใจลงได้บ้างเล็กน้อย และได้ร่วมกันวางแผนในการที่จะออกลุยป่าตามหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งบรรดาญาติพี่น้องมีการออกตามหาทุกวันไม่มีวันหยุด และจะไปตามหาทุกจุดที่เป็นจุดที่ต้องสงสัยว่าเป็นที่ซ่อนตัวของ น.ส.จุฑาภรณ์

นางแหลม แม่ของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกซาบซึ้งใจที่บรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านต่างพากันมาเยี่ยมและให้กำลังใจตนและครอบครัวอย่างต่อเนื่องจำนวนมากทุกวัน และจะอยู่ให้กำลังใจจนดึกดื่นทุกวัน ซึ่งนับตั้งแต่ น.ส.จุฑาภรณ์ หรือ อ้อย ลูกสาวของตนได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 60 เป็นต้นมา ตนและญาติพี่น้องได้ออกตามหา น.ส.จุฑาภรณ์ทุกวัน ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าน้ำมันรถวันละ 5–6 คัน และค่าอาหารให้กับญาติพี่น้องที่มาช่วยในการออกตามหาตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งต้อนรับญาติพี่น้องอีกวันละหลายพันบาททุกวัน ขณะนี้สิ้นเงินค่าใช้จ่ายไปแล้วกว่า 200,000 บาทเศษ โดยยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายกับลูกสาวของตนทั้ง 2 คนที่เป็นพี่สาวของ ผอ.อ้อยด้วย ที่จ่ายเงินไปแล้วคนละหลายหมื่นบาทเช่นกัน

นางแหลม กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าจะหมดสิ้นเงินค่าใช้จ่ายไปแล้วจำนวนมาก แต่ว่าตนก็ยังไม่ท้อและไม่เลิกล้มความตั้งใจในการที่จะตามหาอ้อยลูกสาวคนเล็กของตน ขณะนี้ได้ไปกู้ยืมเงินจากญาติพี่น้องมาไว้อีกจำนวน 100,000 บาท เพื่อเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการตามหา น.ส.จุฑาภรณ์ จนกว่าจะพบตัวลูกสาวคนนี้ ตนฝากถามไปยังสีเขียวทมิฬคนหนึ่งว่า เกิดมาเป็นคนกับเขาชาติหนึ่งจิตใจทำด้วยอะไร ปล้นเงินลูกสาวของตนไปจนหมดธนาคารแล้วยังมาทำร้ายลูกสาวของตนอีก บาปกรรมมีจริง เขียวทมิฬจะต้องรับกรรมที่ก่อขึ้นในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน

ด้านนายบุญเลิศ พ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้แล้วว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ จำนวนประมาณ 15 นายลงพื้นที่มาร่วมกับพนักงานสอบสวน ตร.ภ.จว.ศรีสะเกษ เพื่อร่วมกันสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานและตามหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์ ด้วย ซึ่งตนต้องขอขอบคุณท่าน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ได้ให้ความกรุณาส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ มาร่วมสอบสวนคดีนี้ เพราะพวกตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากว่า ผู้ต้องหาเป็นนายทหาร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน