เข้ามุกดาหารแล้ว! เตือนอีก33จว.เจอฤทธิ์เดชพายุ”โนอึล” ระวังดินโคลนถล่ม-น้ำป่าหลาก
วันที่ 18 ก.ย. นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยว่า กอนช.ติดตามและประเมินสภาพอากาศพายุโซนร้อน “โนอึล” พบเข้าสู่พื้นที่จ.มุกดาหารแล้วและลดระดับลงจากพายุโซนร้อนเป็นพายุดีเปรสชั่น ก่อนกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในโซนภาคกลางของประเทศ จากนั้นจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือเข้าสู่ประเทศเมียนมาต่อไป
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ประกอบกับปัจจัยจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และ อ่าวไทย จะทวีกำลังแรงขึ้นส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีลมแรงในเกือบทุกภาคของประเทศช่วงระหว่างวันที่ 18-20 ก.ย.นี้ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเป็นภาคแรกที่ได้รับผลกระทบ เบื้องต้นกองอำนวยการน้ำแห่งชาติคาดการณ์ว่า จะมีพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลาก รวม 33 จังหวัด
ประกอบด้วย ภาคเหนือ 10 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด ภาคกลาง 2 จังหวัด ภาคตะวันออก 5 จังหวัด ภาคตะวันตก 1 จังหวัด ภาคใต้ 5 จังหวัด และจังหวัดเสี่ยงน้ำล้นตลิ่งในลำน้ำหลายหลักใน 24 จังหวัด 94 อำเภอ 194 ตำบล แบ่งเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด และภาคเหนือ 9 จังหวัด ซึ่งในช่วงวันนี้ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ในแม่น้ำสาขา ก่อนที่ลำน้ำสายหลักจะเพิ่มระดับสูงขึ้นในวันถัดไป
ประกอบด้วยภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ 9 แห่ง ได้แก่ แม่น้ำสงคราม แม่น้ำมูล แม่น้ำห้วยหลวง แม่น้ำชี แม่น้ำห้วยโมง ลำน้ำพุง ลำน้ำเซบาย ลำน้ำเซบก ลำน้ำยัง และ ในภาคเหนือ 3 แห่ง ได้แก่ แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน แม่น้ำป่าสัก และสำหรับสถานการณ์ในแม่น้ำโขงนั้นยืนยันว่า จะไม่ได้รับผลกระทบจากพายุ โดยระดับน้ำในแม่น้ำโขงจะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 50 ซ.ม. นอกจากในแง่ของผลกระทบแล้ว กอนช. ยังประเมินถึงผลดีจากอิทธิพลของพายุโนอึล ที่จะช่วยให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากขึ้น โดยคาดการณ์น้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 แห่งทั่วประเทศจากพายุโนอึลช่วงวันที่ 18-21 ก.ย.นี้ รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,140 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็น ภาคเหนือ 273 ล้าน ลบ.ม.
ภาคกลาง 35 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 378 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออก 98 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันตก 185 ล้าน ลบ.ม. และภาคใต้ 171 ล้าน ลบ.ม. โดยมีอ่างเก็บน้ำจำนวนหลายแห่งที่คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเป็นจำนวนมาก อาทิ เขื่อนสิรินธร คาดน้ำไหลเข้า 171 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนรัชชประภา 136 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ 123 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนวชิราลงกรณ 91 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนภูมิพล 73 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนศรีนครินทร์ 71 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน 58 ล้าน ลบ.ม. เป็นต้น
ขณะที่เขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งมีปริมาณน้ำน้อย คาดว่าจะมีน้ำไหลเข้าเพิ่มขึ้นเพียง 29 ล้าน ลบ.ม. ขณะเดียวกัน กอนช.ยังเน้นย้ำหน่วยงานที่รับผิดชอบอ่างเก็บน้ำขนาดกลางติดตามประเมินปริมาณฝนตกที่อาจจะเสี่ยงน้ำล้นเพื่อบริหารจัดการน้ำในอ่างให้เหมาะสมไม่กระทบกับพื้นที่ท้ายอ่างซึ่งพบว่ามีทั้งสิ้น 50 แห่ง ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 25 แห่ง ภาคเหนือ 13 แห่ง ภาคตะวันออก 9 แห่ง ภาคกลาง 1 แห่ง ภาคตะวันตก 1 แห่ง และภาคใต้ 1 แห่ง
“ช่วง 2-3 วันนี้ที่คาดว่าหลายพื้นที่จะได้รับผลกระทบจากอิทธิพลจากพายุโนอึล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติจะมีการติดตามประเมินสภาพอากาศและสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางมาตรการเชิงป้องกัน โดยประเมินปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนต่าง ๆ และเตรียมพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือ และบุคลากร ล่วงหน้าอย่างเต็มกำลังในการเฝ้าระวัง ป้องกันผลกระทบ และให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจเสี่ยงได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุ รวมถึงได้มอบหมายให้มีการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแหล่งน้ำที่คาดว่าพายุจะเคลื่อนผ่าน”