ไฟไหม้เรือเฟอร์รี่กลางทะเล! สมุยซ้อมแผนเสมือนจริง ช่วยผู้โดยสาร141 ลูกเรืออีก 10
วันที่ 24 ก.ย. ที่สถานีเรือสมุย แหลมโจมคร่ำ ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการซ้อมแผนป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล จ.สุราษฎร์ธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพื่อเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ และอาสาสมัคร ให้มีทักษะความชำนาญการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ รวมทั้งการช่วยเหลือ อพยพ และเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย พร้อมทดสอบเครื่องมือ อุปกรณ์ของหน่วยงานในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลให้มีความพร้อมใช้งานได้ทันที พร้อมทั้งเพื่อให้เกิดความปลอดภัย รวมทั้งลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตลอดจนผู้ประกอบการในพื้นที่
สำหรับการฝึกซ้อมครั้งนี้ ได้จำลองเหตุการณ์ให้เรือเฟอร์รี่ที่บรรทุกผู้โดยสาร 141 คน ลูกเรือ 10 คน รถยนต์ขนาดเล็ก 30 คัน รถบรรทุก 3 คัน ออกจากท่าเรือบริษัทท่าเรือราชาเฟอร์รี่ฝั่งเกาะสมุย มุ่งหน้าไปยัง อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ไปได้ระยะทาง 5 ไมล์ทะเล เกิดเพลิงไหม้บริเวณชั้นล่าง และห้องระวางบรรทุก
ผู้โดยสารไปรวมกันที่จุดรวมพล ไฟไหม้เป็นบริเวณกว้างไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือนำผู้โดยสารกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย 130 คน ตกค้างบนเรือ 11 คน เพลิงไหม้เป็นวงกว้างขึ้นผู้โดยสารทั้ง 11 คน ตกใจกระโดดน้ำ หน่วยงานเข้าช่วยเหลือผู้โดยสารลอยคอได้ 6 คน กลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย และสูญหาย 5 คน
ต่อมาชุดค้าหาเดินเท้าริมชายฝั่ง สำรวจพบผู้สูญหาย 3 คนบริเวณเกาะสี่ เกาะห้า มีอาการบาดเจ็บ สำลักน้ำ ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลเกาะสมุย และอีก 2 คน พบลอยคออยู่ในทะเล ขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากทัพเรือภาคที่ 2 และเฮลิคอปเตอร์จากกองบิน 7 ช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย ตรวจสรุปยอดผู้โดยสารครบตามจำนวน 141 คน ยุติสถานการณ์การฝึก
นายนิพนธ์ เปิดเผยว่า การฝึกซ้อมแผนป้องกันและผู้ประสบภัยทางทะเลขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน อาสาสมัคร ให้ได้เพิ่มทักษะและประสบการณ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย เครื่องมือ อุปกรณ์ ยานพาหนะ
” เพื่อลดความสูญเสียชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ อ.เกาะสมุย เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ ถ้าให้เครือข่ายต่างๆมีความพร้อมในการปฎิบัติหน้าที่เผชิญเหตุหากกรณีเกิดภัยพิบัติ หรืออุบัติเหตทางทะเลเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นการฝึกซ้อมในวันนี้จะเห็นได้ว่าทุกภาคีเครือข่ายได้ร่วมมือกัน อาทิ ทางน้ำ ทางอากาศ ”
นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผลการปฎิบัติวันนี้เป็นไปตามแผนปฎิบัติการที่กำหนดไว้ สิ่งเหล่านี้ได้เห็นถึงความพร้อมของเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และฝั่งอ่าวไทยทั้งหมด ที่พร้อมจะเผชิญเหตุช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่เดินทางทางน้ำ หากเกิดเหตุหรือประสบภัยทางน้ำ ซึ่งทางจ.สุราษฎร์ธานี ก็พร้อมที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ขอเน้นย้ำและขอความร่วมมือถึงพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการเรือ การสวมเสื้อชูชีพ การปฎิบัติตามกฎระเบียบของสำนักงานเจ้าท่า และรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเครื่องมือ ให้มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนต่อไป
