หนุ่มแกร็บคาร์ สุดซวย ผู้โดยสารขอจ่ายค่าจ้างผ่านบัญชี เงินโอนเข้า 3.5 หมื่น ที่แท้เป็นเงินเหยื่อ ถูกหลอกขายพระเครื่อง โดนข่มขู่ให้โอนคืน

วันที่ 7 ต.ค. 2563 ที่สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ นายสรพงษ์ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานหลังถูกข่มขู่รีดไถเงิน และอาจถูกดึงเข้าร่วมกระบวนการหรือตกเป็นเหยื่อของแก๊งรีดไถเงินหรือ หลอกให้ฟอกเงินผิดกฎหมาย

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

นายสรพงษ์ เปิดเผยว่า ตนทำอาชีพรับจ้างและขับรถแกร็บคาร์เป็นอาชีพเสริม ที่จ.เชียงใหม่ โดยเรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2563 มีผู้โดยสารผู้ชายเรียกใช้บริการผ่านแอพลิเคชั่น โดยไปรับที่ริมถนนหน้าธนาคารกสิกรไทย ฝั่งตรงข้ามตลาดธานินทร์ ลูกค้าได้ตกลงขอเหมาให้ไปส่งทำธุระ 2 ชม. ในราคา 400 บาท แต่ผู้โดยสารอ้างว่าไม่มีเงินสดติดตัวจึงขอเลขบัญชีโอนเงิน โดยจะให้เพื่อนโอนจ่ายค่าโดยสารให้ ระหว่างทางตนจึงแวะกดเงินจากตู้เอทีเอ็มในปั๊มน้ำมันข้างวัดโลกโมฬี

ระหว่างกดเงินตนเห็นว่ามีเงินโอนเข้าบัญชี 35,000 บาท รู้สึกแปลกใจแต่ก็เบิกออกมาทั้งหมดแล้วให้ผู้โดยสารที่รออยู่ในรถคืนไป แล้วผู้โดยสารก็จ่ายค่าโดยสารให้ 400 บาท พร้อมกับทิปอีก 100 บาท จากนั้นได้พาผู้โดยสารไปส่งทำธุระต่อจนเสร็จ โดยตนได้ให้เบอร์โทรศัพท์กับผู้โดยสารไว้ด้วยเผื่อเรียกใช้บริการอีก หลังจากผ่านไปราวหนึ่งสัปดาห์ ผู้โดยสารคนเดิมได้โทรศัพท์มาพูดคุยอีก 2 ครั้ง เหมือนจะว่าจ้าง แต่กลับพูดประโยคแปลก ๆ ว่า “ว่าง ๆ จะพาไปซุกเงินอีก”

กระทั่งวันที่ 6 ต.ค. 2563 มีชายแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาหาบอกว่ามีผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่จ.ยะลา กล่าวหาว่าโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตนจำนวน 35,000 บาท เพื่อซื้อพระเครื่อง แต่ไม่ได้รับพระจึงต้องการจะขอเงินคืน ซึ่งตัวได้ปฏิเสธไปว่าไม่รู้เรื่องและไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

เงินค่าจ้างถูกโอนเข้าบัญชี 35,000 บาท จึงกดไปคืนให้ ที่แท้มีเหยื่อโอนซื้อพระเครื่อง

จากนั้นได้มีผู้ส่งข้อความมาข่มขู่ให้ตนโอนเงิน 35,000 บาท ให้เพื่อแลกกับการไม่ถูกเอาเรื่อง พร้อมยังส่งหลักฐานข้อมูลบัตรประชาชนและเลขบัญชีมาให้ดู ตนแจ้งไปว่าตนไม่ใช่คนในบัตรประชาชน แต่เลขบัญชีถูกต้อง ซึ่งตนยืนยันไปว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ

ขณะนี้ตนได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่สภ.สันทราย และวันนี้ได้มาลงบันทึกที่สภ.ช้างเผือก พร้อมกับผู้ชายเจ้าของบัตรประชาชนที่ถูกระบุว่าเป็นคนขายพระ ซึ่งชายคนดังกล่าวก็ไม่มีส่วนรู้เห็นเช่นกันโดยบอกว่าทำบัตรประชาชนหายไปเมื่อหลายเดือนก่อนแต่ไม่ได้เข้าแจ้งความ จากเหตุการในครั้งนี้ตนเชื่อว่าอาจจะเป็นกระบวนการของแก๊งมิจฉาชีพที่หลอกเหยื่อเพื่อรีดไถเงินหรือหลอกให้ฟอกเงินผิดกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน