เมื่อวันที่ 19 ก.ย. นายสรรชัย เทียมทวีสิน ที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง เปิดเผยว่า ตามที่กองศิลปกรรม สำนักพระราชวัง ได้รับนโยบายในการจัดทำเครื่องสดประดับพระจิตกาธานในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อันประกอบไปด้วยงานแทงหยวก งานช่างแกะสลักของอ่อน (เครื่องถม) งานช่างดอกไม้ประดิษฐ์ และงานประดิษฐ์เทวดาประดับฐานเรือนไฟองค์พระจิตกาธาน 8 องค์ นั้น

การนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ ตัวแทนนายช่างแทงหยวกจาก 4 ภูมิภาค อันประกอบด้วย ช่างราชสำนัก สำนักพระราชวัง, ช่างแทงหยวกสกุลช่างจังหวัดสงขลา, ช่างแทงหยวกสกุลช่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดมหาสารคาม, ช่างแทงหยวกสกุลช่างเพชรบุรี นักศึกษาวิชาช่างแทงหยวกจากโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (ชาย) และตัวแทนช่างฝีมือจัดทำเครื่องสดประดับพระจิตกาธาน จากสถาบันวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั้ง 4 ภูมิภาค มีโอกาสเข้าร่วมถวายงานในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเป็นการรวบรวมบรรดาช่างฝีมืองานช่างวิจิตรศิลป์มารวมกัน เพื่อแสดงถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ

สำหรับการดำเนินงานการประดับตกแต่งพระจิตกาธานชั้นเรือนยอด 9 ชั้นนั้น ยึดตามแบบของเก่าที่ระบุไว้เมื่อครั้งถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 8 คือหลังคาชั้นเรือนยอด จะประดับด้วยงานเครื่องสด อันได้แก่ช่างแทงหยวกงานแกะสลักของอ่อน และงานช่างดอกไม้ประดิษฐ์ ถือได้ว่าเป็นรูปแบบงานช่างเครื่องสดราชสำนักอย่างเต็มรูปแบบตามโบราณราชประเพณี

โดยรูปแบบการตกแต่งของหลังคาเรือนยอดประกอบด้วย การร้อยดอกไม้สดเป็นตาข่ายทุกชั้น ขอบปิดประดับด้วยลวดลายแทงหยวกที่เรียกว่า “หยวกรัดเกล้า” สาบลายช่องกระจกด้วยกระดาษทองอังกฤษ ประดับด้วยลายดอกประจำยามที่ทำจากเปลือกมะละกอดิบ ซ้อนชั้นเป็นดอกดวง ที่มุมชั้นของเรือนยอดแต่ละชั้นจะประดับด้วย กระจังทิศ กระจังเจิม ประดิษฐ์จากกาบกล้วยตานี สาบกระดาษทองอังกฤษ

ด้านบนจะปักประดับด้วย ดอกไม้ไหวที่ประดิษฐ์เป็น ดอกปาริชาต ปักประดับเว้นระยะห่างกัน ซึ่งดอกปาริชาตนั้นเป็นดอกไม้ที่สามารถส่งกลิ่นหอมได้ไกลถึง 5,000 โยชน์ โดยทำจากกลีบกล้วยไม้สีเหลืองจำปาเย็บแบบและการกรองกลีบดอกบานไม่รู้โรย สีม่วง เกสรประดิษฐ์จากเมล็ดธัญพืช โดยเกสรชั้นในสุดนั้นถือว่ามีความพิเศษมาก เพราะใช้พลอยรัตน์หายากจำนวน 8 สี จากจังหวัดจันทบุรีมาทำ และตรงกลางเกสรก็ได้นำเพชรมูลค่า 2 สลึงมาประดับตรงกลาง

ทั้งนี้ในวันที่ 17 ต.ค. เวลา 09.14 น. จะมีพิธีตัดกล้วยตานี จำนวน 55 ต้น พร้อมเครื่องขมารุกขเทวดา ที่สวนกล้วยตานี อ.เขาสอยดาว จ.จันทบุรี และในเวลา 15.00 น.จะทำการขนต้นกล้วยตานีเข้ามาพักไว้ในเขตพระบรมมหาราช ส่วนในวันที่ 19 ต.ค. เวลา 09.14 น.จะมีพิธีสังเวยบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ไหว้ครูช่างเครื่องสดในราชสำนัก) ณ ลานหน้าอาคารโรงโขน โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ และวันที่ 24 ต.ค. ช่างคณะทำงานจะต้องดำเนินงานแทงหยวกและเตรียมงานเครื่องสด เพื่อนำขึ้นติดตั้งประกอบบนพระจิตกาธานที่พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง ให้แล้วเสร็จภภายในวันที่ 25 ต.ค. ก่อนเวลา 16.00 น. อันเป็นวันบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุมาศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน