เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นอาบ หมดสติ 3 ราย คาห้องน้ำใน รีสอร์ตภูทับเบิก เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ แจงสาเหตุ

วันที่ 26 ต.ค. 63 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่2 จังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ สาธารณสุขอำเภอหล่มเก่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มเก่า ฝ่ายปกครอง อ.หล่มเก่ง ลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ต 2 แห่ง บนภูทับเบิกกรณีมีผู้ประสบเหตุหมดสติในห้องน้ำถึง 3 ราย หลังจากเปิดเครื่องทำน้ำอุ่น

นายสาริน อายุ 23 ปี เป็นผู้ดูแลรีสอร์ตและผู้ประสบเหตุ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 20 ต.ค. 63 ตนเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำพร้อมกับเปิดเครื่องทำน้ำอุ่น ที่ใช้แก๊สหุงต้มเป็นตัวทำน้ำอุ่น แต่ไม่ได้เปิดพัดลมระบายอากาศ เมื่ออาบน้ำได้ประมาณ 5 นาที ก็รู้สึกเวียนหัว จึงสระผมเพื่อให้หาย เสร็จแล้วก็ปิดเครื่องทำน้ำอุ่นและเตรียมที่จะเปิดประตูห้องน้ำแต่ก็รู้สึกอ่อนแรงและวูบหมดสติไป

นายสาริน กล่าวต่อว่า มารู้ตัวอีกทีประมาณเที่ยงคืนก็พบว่านอนอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว จากการสอบถามทราบว่ายายของตนเห็นเข้าห้องน้ำไปนานผิดปกติ จึงเข้ามาเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบจึงได้ไปตามญาติ ๆ มาพังประตูเข้าไปก็พบว่าตนนอนสลบอยู่ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งตนก็นอนรักษาตัวอยู่ 2 วัน ก็สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ

ด้าน นางบัว (นามสมุติ) อายุ 30 ปี เจ้าของรีสอร์ตที่เกิดเหตุจุดที่2 กล่าวว่า ผู้ประสบเหตุเป็นเด็กชายวัย 4 ขวบและเด็กหญิงวัย 12 ขวบ เด็กทั้งสองคนเป็นลูกของตน โดยในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 23 ต.ค. 63 ลูกทั้งสองคนได้เข้าไปอาบน้ำด้วยกัน โดยมีลุงเป็นผู้เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นชนิดใช้แก๊สให้

นางบัว กล่าวต่อว่า จากนั้นก็ปล่อยให้เด็กทั้งสองคนอาบน้ำเวลาผ่านไปนานพอสมควร ไม่เห็นเด็กทั้งสองคนกลับเข้าห้อง จึงได้มาตามดูที่ห้องน้ำก็พบว่าประตูปิดเมื่อส่องดูก็พบเด็กทั้งสองคนนอนหมดสติอยู่กับพื้นห้องน้ำ จึงพังประตูเข้าไปช่วยเหลือ โดยสภาพของเด็กตัวเย็นไปทั้งตัว จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะนี้ทั้งสองคนปลอดภัยแพทย์เตรียมที่จะให้กลับบ้านได้ในเร็ว ๆ นี้

ทาง นายวินัย ทองชุบ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จ.พิษณุโลก ในวันนี้ได้นำอุปกรณ์ในการตรวจวัดก๊าซในบรรยากาศมาทำการตรวจวัดหาปริมาณก๊าซ เพื่อหาสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว โดยรีสอร์ตแรกพบว่าห้องน้ำค่อนข้างแคบ จึงได้จำลองการใช้ห้องน้ำโดยเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นไว้และไม่เปิดพัดลมระบายอากาศปรากฏว่าปริมาณก๊าซโพเพนมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ซึ่งก๊าซโพเพนเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งของก๊าซหุงต้มเมื่อมีปริมาณมาก ๆ ก็จะเข้าไปแทนที่ออกซิเจนในอากาศ ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดออกซิเจน และทำให้หมดสติและอาจจะตายได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อทดลองเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นไปด้วยและเปิดพัดลมระบายอากาศไปด้วยปรากฏว่าพบปริมาณก๊าซโพเพนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ส่วนรีสอร์ตแห่งที่สอง ห้องน้ำไม่มีพัดลมระบายอากาศ จึงได้ทดลองเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นปรากฏว่าปริมาณก๊าซโพเพนได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ส่วนปริมาณก๊าซออกซิเจนก็ลดลงเรื่อย ๆ จนต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่จะทำให้คนหมดสติลงได้ แต่เมื่อมีการปิดเครื่องทำน้ำอุ่นปรากฎว่าก๊าซโพเพนลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

จึงสรุปได้ว่าสาเหตุที่ผู้ประสบเหตุทั้ง 3 รายหมดสตินั้นเกิดจากก๊าซโพเพนที่เป็นส่วนประกอบของก๊าซหุงต้มที่นำมาใช้ทำเครื่องทำน้ำอุ่น เมื่อมีปริมาณมากขึ้นก็จะเข้าไปทดแทนก๊าซออกซิเจน จนทำให้ผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้นขาดออกซิเจนและหมดสติในที่สุด

ดังนั้นวิธีการแก้ไขและแนะนำก็คือรีสอร์ต สถานที่ประกอบการ จะต้องมีการติดพัดลมระบายอากาศทั้งในห้องนอนและห้องน้ำ รวมทั้งจะต้องมีการจัดหาออกซิเจนกระป๋องมาจัดเตรียมไว้ หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็จะได้นำมาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้ทันท่วงที

นอกจากนั้นยังจะได้มีการประชุมหารือระหว่างส่วนงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ประกอบการรีสอร์ตบ้านพัก เพื่อให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน