เมื่อวันที่ 21 ก.ย. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้องค์กรภาคเอกชน มูลนิธิ และสมาคมต่างๆ ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นวันที่ 243 ภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร โดยวันนี้มีผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพจำนวน 44 คณะ แบ่งเป็น 4 รอบ ได้แก่ เวลา 10.30 น., 14.30 น., 17.00 น. และ 19.00 น.

นายธชต อินสูงเนิน และภรรยา

วันเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักเรียนจากโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (หญิง) ทำอาหารและขนมไทยโบราณมาร่วมแจกให้กับพสกนิกรที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เต็นท์อาหารพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่บริเวณทางออกประตูวิมานเทเวศร์ ในพระบรมมหาราชวัง ประกอบด้วย บะหมี่น้ำตกคอหมูย่าง, ผัดหมี่โคราช, ข้าวแกงคั่วหอยขม และครองแครงกะทิสด

สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 20 ก.ย. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 23.09 น. จากกำหนดเดิมเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอกราบสักการะพระบรมศพในมณฑลพิธีสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 53,391 คน รวม 322 วัน มี 10,940,193 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 5,084,397 บาท รวม 322 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 811,645,406.26 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันที่ 323 ที่มีพระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยตลอดทั้งวันมีประชาชนจำนวนมากหลั่งไหลมาเข้าคิวรอกราบถวายบังคมพระบรมศพอย่างเนืองแน่น ซึ่งในวันที่ 30 ก.ย.นี้ สำนักพระราชวังจะเปิดให้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพเป็นวันสุดท้าย

นายธชต อินสูงเนิน อายุ 40 ปี อาชีพค้าขาย เดินทางมาจาก อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยภรรยา นางชญาภา วัย 43 ปี กล่าวว่า ตั้งใจว่าจะเดินทางมากราบพระบรมศพนานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาส พอทราบข่าวจากทีวีจะเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพจนถึง 30 ก.ย.นี้ จึงรีบเดินทางมาทันที โดยนั่งรถโดยสารประจำทางออกจากนครราชสีมาเวลา 00.40 น. มาถึงบริเวณสนามหลวงเวลา 04.00 น. ซึ่งเวลานั้นคนก็มารอต่อแถวกันมากแล้ว แต่ด้วยความตั้งใจที่จะมากราบพระบรมศพให้ได้สักครั้ง จึงไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ กระทั่งได้เข้ากราบพระบรมศพราว 12.30 น.

“ผมเคยเป็นทหารเรือและมีโอกาสพายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ถวายในหลวงร.9 เมื่อปี พ.ศ.2542 ในการเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม ซึ่งเป็นครั้งเดียวที่มีโอกาสได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด วันนี้จึงตั้งใจมากราบส่งเสด็จพร้อมตั้งจิตอธิษฐานขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย และขอพรให้พระองค์คุ้มครองให้บ้านเมืองมีความสงบสุขด้วย ที่ผ่านมาพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตอย่างพอเพียงไม่ฟุ้งเฟ้อ ซึ่งเป็นตัวอย่างให้ผมใช้ชีวิตอย่างสมถะตามแบบพระองค์ รวมทั้งการเสียสละและทำประโยชน์แก่ส่วนรวม” นายธชตกล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน