แม่โพสต์เกือบเสียลูก หลังปวดท้องหนัก หมอบอกอาหารเป็นพิษ ก่อนอาการทรุด ต้องส่งตัวไปรพ.ชลบุรี สุดท้ายพบไส้ติ่งแตกจนเน่า หนองไหล มาช้าอีกนิดอาจเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงาน เฟซบุ๊กแฟนเพจ อีซ้อขยี้ข่าว รายงานเรื่องราวของเด็กคนหนึ่ง ที่มีอาการปวดท้องอย่างหนัก ต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นเพียงอาหารเป็นพิษ ก่อนที่จะให้ยาและให้กลับบ้าน สุดท้ายเด็กคนดังกล่าวกลับอาการหนักขึ้น เริ่มไม่รู้สึกตัวนำตัวส่งรพ.ชลบุรี ซึ่งพบว่าเป็นอาการปวดท้องจากไส้ติ่งแตกเน่า และมีหนอง และหากถึงมือแพทย์ช้าอาจเสียชีวิต

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

โดยข้อความระบุว่า คืนวันพฤหัสน้องบ่นปวดท้องต่อเนื่องคืนวันศุกร์น้องบ่นปวดมากขึ้น เช้าวันเสาร์เลยพาน้องไปคลินิกทางหมอบอกอาหารเป็นพิษตกช่วงดึกอาการน้องไม่ดีขึ้น

เช้าวันอาทิตย์เลยนำน้องไปโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในสัตหีบ ซึ่งสภาพน้องที่ไปถึงรพ. น้องปวดท้องมาก ปากเขียว หน้าซีด และไม่มีแรง ช่วงนั่งรอน้องก็นั่งฟุบหน้าตลอด พอถึงเวลาตรวจทางคุณหมอถามประวัติไม่ถึง 5 นาที และวินิจฉัยว่าน้องอาหารเป็นพิษ โดยให้ยาแก้อาการเกร็ง, แก้อาเจียน, และยาพาราเท่านั้น

สายของวันจันทร์ยายโทรบอกแม่ว่าอาการน้องทรุดกว่าเดิม ลุกไม่ไหว และเริ่มไม่รู้สึกตัว ทางยายเลย พาไปรีบหาหมอแถวบ้าน ทางหมอบอกต้องเอาน้องไปโรงพยาบาลด่วน เพราะอาการไม่สู้ดีนัก เลยประสานงานส่ง รพ.วัดญาณฯ และทางรพ.ส่งตัวน้องไปต่อในจังหวัด

สรุป….ทางคุณหมอ รพ.ชลบุรีต้องรีบนำตัวน้องเข้าห้องฉุกเฉินเป็นการด่วน และตรวจแบบละเอียดวินิจฉัยว่าน้องไส้ติ่งแตกจนเน่า และมีหนองไหลออกมา ซึ่งถ้ามาช้ากว่านี้น้องอาจเสียชีวิตได้ ทางคุณแม่ระบายมาว่า ถ้าทางรพ.รัฐแห่งแรกวินิจฉัยโรคน้องแบบละเอียด น้องคงไม่มีอาการทรุดลงขนาดนี้ เพราะถ้ามาช้าอีกนิดเค้าอาจเสียน้องไปก็ได้…

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ยังโรงพยาบาลชลบุรี พบว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวพักรักษาตัวอยู่ยังตึกชลยุวัฒน์ ชั้น 3 ห้องศัลกรรมเด็ก ทราบชื่อคือด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 8 ปี

จึงสอบถาม นางสุทิศา แก้วสนธยา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ถึงอาการล่าสุดของน้องบี พบว่าน้องมีอาการเกิดฝีที่ไส้ติ่ง มีอาการบวมอักเสบ ทางแพทย์จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีอาการสารน้ำและสารอาหารในร่างกายไม่สมดุลกัน และมีอาการไข้และปวดท้องเป็นพักๆ จึงต้องให้ยาแก้ปวด ยังต้องเฝ้าระวังสัญญาณชีพ ทุก 1 ชั่วโมง และต้องบันทึกน้ำเข้า น้ำออก ทุกหนึ่งชั่วโมง

ตอนนี้ยังไม่สามารถผ่าตัดให้น้องได้ เพราะต้องให้ยาฆ่าเชื้อ สักระยะหนึ่ง เพื่อรอให้น้องได้รับสารน้ำและสารอาหารให้สมดุลก่อน โดยคุณหมอจะมาประเมินอาการทุก 4 ชั่วโมง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน