ชาวบ้านสุดทน ร้องเรียนทุกหน่วยงาน ยังแก้ปัญหาไม่ได้ นายหัวชาวใต้ ดัดแปลงอาคารพาณิชย์ ใช้เลี้ยงนกนางแอ่นเพื่อการค้า แม้ถูกติดป้ายห้าม ยังไม่สนใจ

วันที่ 15 พ.ย. 2563 นางปราณี พงษ์ตระกูล อายุ 70 ปี เจ้าของอาคารเลขที่ 37/172 ซอยสีฟ้า เปิดเผยว่า ตนได้เข้าแจ้งกับร.ต.อ.สมเกียรติ บุญมีจิว รองสว.(สอบสวน)สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา เนื่องจากบริเวณที่พักอาศัยมีนายทุนจากภาคใต้มาซื้อตึกแถวติดกับผู้ตนเอง แล้วได้ดัดแปลงตัวอาคารใช้เลี้ยงนกนางแอ่น สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่อยู่อาศัย

นางปราณี กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 63 ชาวบ้านภายในซอยสีฟ้า ถนนเอกาทศรถ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก และชุมชนย่านถนนบรมไตรโลกนาถ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจ.พิษณุโลก ว่ามีนายทุนมากว้านซื้ออาคารพาณิชย์หลายคูหา โดยต่อเติมอาคารจัดทำเป็นรังนกนางแอ่นเพื่อการค้า สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนที่อยู่อาศัยห้องติดกัน จึงเกรงว่าจะเกิดโรคติดต่อไข้หวัดนก ไข้สมองอักเสบ หรือไวรัสโควิด-19

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

นางปราณี กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 12 พ.ย. 63 ได้มีกลุ่มคนประมาณ 10 คน ตะโกนข่มขู่ชาวบ้านว่าให้หยุดนร้องเรียนเรื่องนก จนเกิดความกลัวและเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงมาลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ในส่วนศูนย์ดำรงธรรมจ.พิษณุโลก ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหารือเพื่อให้ผู้ประกอบการรังนกนางแอ่น ปรับปรุงแก้ไข 3 ประเด็น คือเรื่องส่งกลิ่นเหม็น เสียงลำโพงเรียกนกเข้ารัง และเสียงของนก

นางปราณี กล่าวต่อว่า ตนเป็นครูสอนโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ส่วนสามีเป็นอดีตนายทหารยศพันเอก แต่ปัจจุบันตนและสามีป่วยเป็นมะเร็งทั้งคู่ ทำให้มีสุขภาพจิตไม่ดี เพราะมีเสียงเรียกนกดังตลอดทั้งวัน เจ้าห้องข้างเคียงเดือดร้อนกันไปหมด โดยในช่วงเวลาเย็นตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไปจนถึงค่ำนกนางแอ่นจะบินเข้าไปในตึกเป็นจำนวนมาก ส่งเสียงดังไปทั่วบริเวณ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทางหน่วยงานรัฐยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้เลย

ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจ.พิษณุโลก ได้มีคำสั่งมอบหมายให้ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจ.พิษณุโลก เป็นประธานกรรมการตรวจสอบแก้ไขให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งในทางกฎหมายรัฐบาลได้เปิดให้สัมปทานรังนกในถ้ำ แต่สำหรับบ้านนกยังไม่มีกฎหมายรองรับ โดยเฉพาะกลางชุมชนหนาแน่นที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก ส่วน พ.ร.บ.สาธารณสุข มีการควบคุมระงับเหตุเดือดร้อนรำคาญประชาชน

นกนางแอ่นบินวนเวียนอยู่รอบอาคารพาณิชย์ ส่งเสียรบกวนไปทั่วบริเวณ

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 63 เจ้าหน้าที่เทศบาลนครพิษณุโลก ได้นำป้ายประกาศมาติดบริเวณด้านหน้าอาคารพาณิชย์ทั้ง 2 คูหาภายในซอยสีฟ้า คืออาคารเลขที่ 37/171 และอาคารเลขที่ 37/149 มีข้อความระบุว่า “ห้ามใช้อาคาร” ซึ่งอาจเป็นภยันตรายตามมาตรา 40 วรรคหนึ่งหรือมาตรา 41 วรรคหนึ่ง กรณีก่อสร้างดัดแปลงเคลื่อนย้าย หรือรื้อถอนอาคาร พร้อมทั้งนำเอกสารคำสั่งมาปิดไว้หน้าอาคารอีกด้วย

แต่นายทุนเจ้าของตึกเลขที่ 57-58-59 ถนนบรมไตร ได้ฝ่าฝืนเข้าไปภายใน และดึงหนังคำสั่งของทางเทศบาลนครทิ้ง อีกทั้งยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งด้านที่นกเข้ารัง และด้านหน้าอาคาร เพื่อดูความเคลื่อนผู้ที่จะมารบกวนนกนางแอ่น ตลอดจนติดตั้งระบบเสียงเรียกนกอัตโนมัติ คาดว่าถูกควบคุมโดยรีโมทคอนโทรลระบบอัตโนมัติ ที่มีเสียงเรียกดังตลอดทั้งวัน

ด้านหลังอาคารมีการดัดแปลงเพื่อใช้เลี้ยงนก และติดลำโพง(มุมซ้ายบน) เรียกนกเข้ารัง

ด้านนายอธิปไตย ไกรราช ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจ.พิษณุโลก กล่าวว่า ภายหลังจากการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนย่านซอยสีฟ้า ถนนเอกาทศรถ และย่านถนนบรมไตรโลกนารถ อีก 3 คูหา ผู้ว่าราชการการจ.พิษณุโลก ได้มอบหมายให้ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบแก้ไขเรื่องร้องเรียนให้เป็นไปตามกฎหมายแล้ว

นายธีรัชสิทธิ์ วงศ์วาน ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจ.พิษณุโลก และประธานคณะกรรมการตรวจสอบแก้ไขเรื่องร้องเรียน กล่าวว่า ซึ่งจะต้องเรียกประชุมคณะกรรมการฯ หลังจากได้ทำหนังสือไปยังเจ้าของอาคารพาณิชย์ ให้มาปรับปรุงแก้ไข โดยมีกำหนดระยะเวลา 30 วัน เมื่อพ้นกำหนด หากเจ้าของอาคารดังกล่าว ไม่ดำเนินการจะสั่งการให้เทศบาลฯ แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน