เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นางวาสนา แท่งทอง ผู้เขียนประพันธ์กลอนหมอลำ ร่วมกับเพื่อนและลูกศิษย์บันทึกเสียงการแสดงหมอลำศิลปะพื้นบ้านเป็นภาษาอังกฤษ หวังเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและชาวโลก ให้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย เล่าว่า หลังพระองค์ท่านเสด็จสวรรคตได้เริ่มเขียนบทประพันธ์เป็นกลอนหมอลำ เล่าเรื่องราวตลอดรัชสมัยที่พระองค์ทรงมีเมตตาทำให้กับคนไทยและชาวโลกเป็นภาษาอังกฤษเป็นระยะ หวังใช้กลอนหมอลำที่ได้รับสืบทอดมาจากบิดาสื่อถึงชาวต่างชาติ เพื่อให้เข้าใจเรื่องราวทำไมคนไทยถึงรักพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้ กระทั่งในเดือนก.ค. ได้แต่งกลอนลำขึ้นชุดสุดท้าย เป็นกลอนลำทางยาวเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นกลอนลำทำนองเศร้า และเป็นกลอนลำที่ร้องยากกว่าปกติ ศิลปินผู้ร้องต้องมีสมาธิไปกับเนื้อหาที่นำมาร้อง ไม่เหมือนกลอนลำเต้ยทั่วไป แต่เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และต่อพระองค์ท่าน จึงพยายามเขียน และใช้เวลาเขียนนานร่วม 1 เดือน

“เพราะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่แต่คนไทยเท่านั้นที่นำมาปฏิบัติแล้วได้ประโยชน์ ขณะนี้กว่า 30 ประเทศทั่วโลกได้ยึดนำไปปฏิบัติ ทำให้ความยากจนไม่ใช่อุปสรรค และแนวคิดนี้ ไปตรงกับทฤษฎีของชาวต่างชาติด้วยที่ “เงินไม่ใช่ทุกสิ่งของชีวิต” แต่ความพอเพียงต่างหากที่ทำให้ทุกชีวิตบนโลกนี้ดำเนินไปได้ ซึ่งหากชาวต่างชาติฟังกลอนลำชุดนี้จบ ก็จะเข้าใจจิตสำนึกของคนไทยที่มีต่อพระองค์ท่านเป็นอย่างดี มรดกที่พระองค์ทิ้งไว้ให้คนไทยและคนในโลกนอกจากแนวคิดอยู่อย่างพอเพียงแล้ว ยังให้ป่าไม้ แหล่งน้ำ และดินที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีค่ามากๆสำหรับคนในโลกนี้”ผู้ประพันธ์กลอนหมอลำ กล่าว

นางวาสนา เล่าต่อว่า เหตุที่ได้เขียนบทประพันธ์เพลงหมอลำและร้องได้เป็นอย่างดี เพราะขณะที่เป็นครูสอนภาษามากว่า 30 ปี ได้แต่งกลอนหมอลำเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษผสมผสานกัน เพื่อใช้สอนนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศต่างๆ ให้เข้าใจวัฒนธรรมการร้องลำของคนอีสาน และการเรียนด้วยการใช้การร้อง ทำให้เด็กสนุกสนานและเข้าใจภาษาได้อย่างลึกซึ้งกว่าการสอนปกติ จึงได้ยึดถือทำมาจนวันขอเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดเมื่อปี 2547 ซึ่งขณะนั้นป่วยหนัก แต่เมื่อออกมารักษาตัวจนหายเป็นปกติ ก็ยังรับเป็นครูสอนพิเศษให้กับโรงเรียนมัธยมและกับชมรมผู้สูงอายุในจังหวัด เพื่อเผยแพร่กลอนหมอลำเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งมีลูกศิษย์ที่ผ่านการสอนนำศิลปะแขนงนี้ ไปใช้ประกอบอาชีพแสดงตามจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำบกกลอนหมอลำชุดนี้ออกมาน้อมรำลึกถึงพระหมากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน เพื่อเป็นการส่งเสด็จพระองค์ท่านสู่สวรรคาลัย

ด้านตู่ ปัญญัชลิตา ศรีวรรณ เจ้าของสถานเสริมความงามแฮร์ดีไซน์ ลูกศิษย์คนแรกที่นำกลอนลำภาษาอังกฤษเข้าร่วมแสดงในงานวันภาษาไทยเมื่อครั้งยังเป็นลูกศิษย์เรียนกับอาจารย์วาสนาที่โรงเรียนลือคำหาญ อ.วารินชำราบ เมื่อกว่า 30 ปีก่อนเล่าว่า ปกติตนเองเป็นคนชอบร้องรำมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสืออยู่กับอาจารย์ และอาจารย์ได้แต่งกลอนรำเป็นภาษาไทยผสมภาษาอังกฤษให้นำไปแสดง ซึ่งก็ทำได้ดี หลังเรียนจบและเข้าทำงาน ก็ได้แต่งกลอนร้องหมอลำออกมาบันทึกเสียงไว้จำนวน 2 ชุด การทำครั้งนั้น ก็เพราะต้องการตอบโจทย์ให้กับตัวเอง กระทั่งอาจารย์มาบอกต้องการทำกลอนหมอรำเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือในทุกทาง เพื่อแสดงความจงรักภักดีและร่วมถวายความอาลัยต่อพระองค์ท่านด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน