รพ.ตำรวจ จัดกิจกรรม​รณรงค์ยุติปัญหาเอดส์ พบสายปรึกษาปัญหาล่วงละเมิด 70% เป็นเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ส่วนใหญ่กลัวท้อง แต่ลืมคำนึงถึง HIV

เมื่อวันที่​ 1​ ธ.ค.​ 2563​ ที่ลานกิจกรรมชั้น 2 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา​ รพ.ตำรวจ​ พล.ต.ต.ทวีศิลป์​ เวชวิทารณ์ รองนายแพทย์ใหญ่​ รพ.ตำรวจ​ เปิดกิจกรรม​ World AIDS Day​ getting​ to​ ZERO​ เนื่องในวันที่ 1 ธ.ค.​ ของทุกปีเป็นวันเอดส์โลก

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ซึ่งปีนี้ทางรพ.ตำรวจ จัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบอาทิ การให้บริการเจาะเลือดตรวจหาเชื้อ HIV ฟรี​ แก่ผู้ร่วมกิจกรรม​เดินรณรงค์ยุติปัญหาเอดส์ภายในโรงพยาบาล พร้อมแจกหน้ากากอนามัย และถุงยางอนามัย​ อีกทั้งยังมีการเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคเอดส์​ โดยแพทย์​และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ

โดยมีร.ต.อ.​เอกวิทย์​ ยมสมิต นายแพทย์หน่วยโรคติดเชื้อ​รพ.ตำรวจ บรรยายให้ความรู้แนวทางการรักษาผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วยโรคเอดส์อย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยของผู้ดูแล​ และมีพ.ต.อ.หญิง​ วันเพ็ญ​ ปรีติยาธร หัวหน้าศูนย์พึ่งได้ รพ.ตำรวจ​ บรรยายให้ความรู้เรื่องวิธีการป้องกันการติดเชื้อ HIV การใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง​ รวมไปถึงการป้องกันหลังสัมผัสเชื้อ

พล.ต.ต.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันที่รพ.ตำรวจ​ มีผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ มารับคำปรึกษาจากศูนย์พึ่งได้ ปีละ 600-700 ราย ที่น่าตกใจส่วนใหญ่เป็นนักเรียน​และนักศึกษาอายุต่ำกว่า 18 ปี​ มากถึงร้อยละ 70 ซึ่งเด็กเหล่านี้เมื่อถูกกระทำจะไม่คำนึงถึงปัญหาการติดเชื้อ HIV แต่คำนึงถึงภาวะการตั้งครรภ์เพียงอย่างเดียว​ ทำให้เด็กวัยนี้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น​ร้อยละ​ 1-1.5

พล.ต.ต.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า แม้ว่าโรคนี้จะรักษาไม่หาย​แต่มียาป้องกันการติดเชื้อ​ ซึ่งหากถูกล่วงละเมิดทางเพศแนะนำให้ตั้งสติ รีบออกมาอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยเพื่อทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น​แล้วรีบไปแจ้งความ หรือเล่าให้ผู้ปกครองฟัง​ สำคัญที่สุดคือห้ามเปลี่ยนเสื้อผ้า​ หรือทำความสะอาดร่างกาย​ ให้รีบไปพบแพทย์​ทันที​ เพราะปัจจุบันนี้มียาที่จะป้องกันการติดเชื้อ HIV โดยจะต้องรับประทานยาตามแพทย์สั่ง หลังมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 3 วัน และทานให้ตรงเวลาจนครบ 28 วัน​

พล.ต.ต.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับสถิติผู้ติดเชื้อ HIV ในประเทศไทย​ จากสถิติสิ้นปี 2563 คาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ประมาณ​ 472,376 คน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,855 ราย ต่อปี​ ซึ่งประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์มุ่งมั่นที่จะยุติปัญหาดังกล่าว​ภายในปี 2573 ด้วยการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์

ภายใต้เป้าหมายคือลดจำนวนผู้ป่วย HIV รายใหม่ให้เหลือปีละไม่เกิน 1,000 ราย ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อ HIV​ เหลือปีละไม่เกิน 4,000 ราย​ และลดการรังเกียจเลือกปฏิบัติกับผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด ด้วยการสร้างความตระหนักและเข้าใจอย่างถูกต้องว่า​ เอดส์เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่โรคติดต่อร้ายแรงที่น่ารังเกียจ​หรือน่ากลัว ผู้ป่วยโรคเอดส์สามารถอยู่ร่วมกันกับทุกคนในสังคมได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน