วันที่ 15 ธ.ค.63 ที่ สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), พ.ต.ต.สิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิ์กุล ผอ.กองคดีการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พล.ต.ต.ธรรมนูญ ปะยืนยง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ เหตุเกิดที่แพโชคชัย พื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
สืบเนื่องมาจาก ดีเอสไอได้รับแจ้งจากมูลนิธิไอเจเอ็ม ตั้งแต่เดือนมี.ค.63 ให้เข้าช่วยเหลือแรงงานสัญชาติเมียนมา จำนวน 5 คน ที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ด้านแรงงานประมง โดยมีการหลอกลวงค่าแรง ขู่เข็ญบังคับทำร้าย ต่อมาดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษ ที่ 37/2563 โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนเชื่อได้ว่า มีการค้ามนุษย์จริง จึงได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวน 7 คน เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา
และในวันนี้ (15 ธ.ค.) ได้มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เพื่อเข้าร่วมตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา โดยได้มีการขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.63 หลังจากนั้นในช่วงเช้าของวันนี้ (15 ธ.ค.) จึงได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหารวม 7 คน
รวมทั้งได้มีการยึดอาวุธปืนจากการตรวจค้นที่บ้านพักของผู้ต้องหา สมุดธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม รวมทั้งของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ ซึ่งการตรวจค้นพบหลักฐานสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีจำนวนหนึ่ง และได้นำผู้ต้องหาทั้ง 7 ไปดำเนินคดีที่กองคดีการค้ามนุษย์กรมสอบสวนคดีพิเศษต่อไป
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าวว่า อยากจะฝากไปยังนายจ้างเจ้าของเรือประมงอย่าได้มีพฤติกรรมในการเอาเปรียบแรงงาน ด้วยการสร้างสภาพหนี้ผูกมัดและบังคับขู่เข็ญตลอดจนทำร้ายร่างกาย เพราะดีเอสไอจะมีการดำเนินการสอบสวนจนถึงที่สุด
ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์นั้น โดยกรณีที่ อ.สิชล พบว่า 1 ใน 7 ผู้ต้องหาเป็นนักการเมืองท้องถิ่นคนดัง โดยทางดีเอสไอจะดำเนินการจนถึงที่สุดต่อไป