ตร.ค้านประกัน เสี่ยแพร หลังบุกจับที่คอนโดกลางกรุง คุมตัวกลับขอนแก่น เค้นสอบเครียดทั้งคืน ก่อนฝากขัง เจ้าตัวปัดทุกข้อหา พบคนมีสีเอี่ยว
จากกรณีที่ นายธเนศ หรือเสี่ยแพร อายุ 42 ปี นายทุนเงินกู้นอกระบบ ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี จนได้รับบาดเจ็บ ภายในสนามฟุตบอลหญ้าเทียมแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์และพฤติกรรมเอาไว้ได้
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ต่อมา ศาลออกหมายจับนายธเนศ ข้อหาทำร้ายร่างกาย, เรียกดอกเบี้ยกินกำหนด, ใช้ความรุนแรงกับลูกหนี้ ก่อนที่วานนี้ กำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เข้าจับกุมตัวนายธเนศ ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง กทม. และคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อปากคำ พร้อมคัดค้านการประกันตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
- บุกจับกลางกรุง! นายทุนเงินกู้ ทวงหนี้โหดพีอาร์สาวที่ขอนแก่น เจอแจ้งข้อหาหนัก
- เด้ง 2 รอง สวป.-พงส.โรงพักขอนแก่น เซ่นบกพร่องคดี นายทุนเงินกู้ตื้บพีอาร์สาว
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ธ.ค.2563 พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า การสอบสวนผู้ต้องหาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนทั้ง 3 นายที่แต่งตั้งขึ้นมาใหม่ ได้ร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหา แต่ยังไม่เรียบร้อย ซึ่งจะทำการสอบสวนเพิ่มเติม และคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน จากนั้นก็จะควบคุมตัวส่งศาลตามขั้นตอน
การสอบสวนนั้น ผู้ต้องหาให้การได้ตามปกติ แต่เมื่อแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ดังนั้นขณะนี้พนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เมื่อขั้นตอนการสอบสวนเสร็จสิ้นก็จะฝากขัง ส่วนการที่ผู้ต้องหาให้การจะปฏิเสธในชั้นพนักงานสอบสวนนั้นเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ทุกอย่างว่ากันไปตามกระบวนการในชั้นศาล ตามพยานหลักฐาน ขอยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวต่อว่า ก่อนที่จะมีการทำร้ายร่างกาย น.ส.เอ นั้น ทั้ง 2 คน รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยมีเพื่อนแนะนำ กระทั่งสนิทสนมกัน น้องเอจึงได้มีการขอยืมเงิน 4 ครั้ง ในครั้งแรกเป็นเงิน 10,000 บาท ครั้งที่ 2 ยืมเงิน 20,000 บาท ครั้งที่ 3 40,000 บาท และครั้งสุดท้าย 80,000 บาท โดยครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 น.ส.เอได้ชดใช้หนี้คืนทั้งหมดแล้ว
แต่ในรายละเอียดเชิงลึกเรื่องของดอกเบี้ยนั้นพบว่า เรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงได้มีการขอศาลออกหมายจับ และหลังจากออกหมายจับจากศาลแล้วก็ได้มีการส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ เพื่อหาตัวผู้ต้องหาและจับกุมตัวได้ในห้องพักภายในดอนโคมิเนียม
อย่างไรก็ดี คดีนี้ประชาชนให้ความสนใจ และเป็นนโยบายของทางรัฐบาลในเรื่องของหนี้นอกระบบมีการเน้นย้ำมาโดยตลอด หากมีการกระทำผิดกฎหมายในเรื่องดังกล่าวให้ดำเนินการโดยทันที ซึ่งการกู้ยืมนั้นเป็นลักษณะเช่น ผู้เสียหายเมื่อเป็นลูกค้าแล้ว จะให้ไปหาลูกค้าเพิ่มเป็นทอดๆ และมาติดต่อผ่านเฟซบุ๊กตัวต่อตัวของนายทุน และมีการตกลงกันแล้วโอนเงินให้
ในส่วนของผู้ต้องหานั้นจากการตรวจสอบพบว่าโอนเงินให้ง่ายมาก ไม่มีการตรวจสอบหลักฐานของผู้กู้ยืม ดูเพียงสถานที่ทำงาน ที่อยู่ ตัวตนก็โอนเงินให้ทันที ในส่วนของการจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการขยายผลและตรวจสอบ
เนื่องจากมีเอกสารจำนวนมาก ในส่วนที่ว่าเงินก้อนที่ให้ผู้เสียหายยืมนั้น เป็นเงินของบุคคลมีสี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นการทวงหนี้ที่อ้างบุคคลให้เกิดความสำคัญ เพื่อจะให้ทวงหนี้ได้ง่ายขึ้น แต่ก็จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป