ตำรวจบุกทลายโกดัง บุหรี่ไฟฟ้า ย่านร่มเกล้า จับ 4 ผู้ต้องหา ยึดของกลางจำนวนมาก มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท แฉใช้พริตตี้สาวโฆษณา เตรียมเรียกสอบ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

วันที่ 19 ธ.ค.63 ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ประจำ บช.ก. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการควันปีศาจ จับกุม 4 ผู้ต้องหาลักลอบผลิตและจำหน่ายน้ำยาพร้อมอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าโดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลางน้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้า 50,000 ขวด และแบบแกลลอนขนาด 5 ลิตร 40 แกลลอน น้ำยาเติมบุหรี่แบบพอต 10,000 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้า 1,500 ชิ้น อุปกรณ์อื่นๆ 80 กล่อง รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท หลังเข้าตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งในซอยเคหะร่มเกล้า 27 แยก 4 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กทม. จนสามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดและยึดของกลางได้ดังกล่าว

พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนว่า มีการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยายี่ห้อต่างๆ ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าทำมาจากผลไม้แห้ง ไม่เป็นอันตรายและช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ ซึ่งผลการตรวจสอบของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในน้ำยาบุหรี่มีสารโลหะหนัก ที่ก่ออันตรายกับร่างกาย เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค อีกทั้งยังเป็นการสร้างเสริมให้เยาวชนอาจติดยาเสพติด

จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำกำลังลงพื้นที่สืบสวนกระทั่งพบข้อมูลว่าเพจดังกล่าวเปิดมานาน 3 ปี ใช้พริตตี้สาวเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา และมียอดสั่งซื้อจำนวนมาก โดยจะจัดส่งสินค้าผ่านบริษัทเอกชน ซึ่งมีแหล่งจัดเก็บอยู่ย่านสะพานสูง จึงรวบรวมหลักฐานขอหมายค้นศาลอาญามีนบุรีปิดล้อมตรวจค้นโกดังดังกล่าว พร้อมจับกุม 4 ผู้ต้องหา และยึดของกลางจำนวนมาก

พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับของกลางดังกล่าวจากการตรวจสอบพบว่านำเข้ามาจากประเทศจีน เบื้องต้นจะแจ้งข้อหา “ร่วมกันขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขายเพราะเป็นสินค้าอันตรายแก่ผู้บริโภค” ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ประกอบคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเรื่องการห้ามขายบารากู่ หรือบุหรี่ไฟฟ้า ก่อนติดตามขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการโฆษณาหรือการสนับสนุน พร้อมสั่งให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) ตั้งคณะทำงานขึ้นมาสืบสวนสอบสวนต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสืบสวนพบว่า หนึ่งในพริตตี้สาวผู้โฆษณาสินค้าเป็นนางแบบนิตยสารแนวเซ้กซี่ชื่อดัง ปี 2017 ซึ่งมีพรรคพวกเป็นพริตตี้สาวนับหลายสิบรายที่เป็นผู้โฆษณาด้วย โดยตำรวจจะเรียกมาสอบปากคำต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน