นครปฐมออกประกาศ ข้อปฏิบัติของ รถเร่ขายสินค้า ที่เข้ามาขายในพื้นที่ ป้องกัน ‘โควิด’ ฝ่าฝืนเจอโทษ ย้ำต้องทำความสะอาดรถทุกวัน
วันที่ 29 ธ.ค. 63 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ประกาศของจังหวัดนครปฐม ฉบับที่96/2563 เรื่องข้อปฏิบัติของรถขายสินค้าเบ็ดเตล็ดเคลื่อนที่ ที่เข้ามาขายในพื้นที่จังหวัดนครปฐม โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครปฐม ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 27/2563 เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 63 จึงออกประกาศ เรื่องข้อปฏิบัติของรถขายสินค้าเบ็ดเตล็ดเคลื่อนที่ ที่เข้ามาขายในพื้นที่ จังหวัดนครปฐม ดังนี้
- เจออีก 5 ราย นครปฐมป่วย ‘โควิด’ ด.ช. 9 ขวบก็ติดเชื้อ ยอดรวม 58 รายแล้ว
- ป้ายปริศนา โผล่3จุด กลางเมืองระยอง ภาพแชร์ว่อนเน็ต บิ๊กตู่จ่อ ลงพื้นที่บ่ายนี้
- สสจ.จันท์แจ้งด่วน! ใครไป 5 สถานที่นี้ รีบสังเกตตัวเอง หลังพบติด ‘โควิด’ แล้ว3คน
1.ให้ผู้ขับรถ ผู้จำหน่ายสินค้า และผู้โดยสาร ที่โดยสารมากับรถขายสินค้าเบ็ดเตล็ดเคลื่อนที่ ที่เข้ามาขายในจังหวัดนครปฐมทุกคัน ลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่นหมอชนะ
2.ให้รถขายสินค้าเบ็ดเตล็ดเคลื่อนที่ทุกคันที่เข้ามาขายสินค้าในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ต้องมาขึ้นทะเบียนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของพื้นที่ที่มาขายสินค้านั้น
3.ให้รถขายสินค้าเบ็ดเตล็ดเคลื่อนที่ ที่เข้ามาขายในพื้นที่จังหวัดนครปฐมทุกคัน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ควบคุมการแพระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ตามประกาศจังหวัดนครปฐมฉบับที่ 83/2563 ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2563 โดยเคร่งครัด และปฏิบัติเพิ่มเติมดังนี้
สภาพรถต้องดี ทำความสะอาดทุกวัน อาหารที่จำหน่ายแยกเก็บเป็นสัดส่วน เนื้อสด อาหารทะเล แยกใส่ในภาชนะ เก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส ห้ามนำอาหารที่ปรุงข้ามวันมาจำหน่าย ผลไม้ที่หั่นแล้ว มีการแยกเก็บตามประเภท มีการปกปิด ใช้น้ำแข็งที่สะอาด
อาหารสุก อาหารดิบ แยกภาชนะ/อุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดทุกวัน ผู้ขายมีสุขภาพอนามัยที่ดี ล้างมือ สวมหน้ากาก ใช้อุปกรณ์หยิบจับอาหาร ผู้ซื้อผู้ขาย เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร หากอาการโรคระบบทางเดินหายใจ มีไข้ ไอ จามให้พบแพทย์
ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อ 1 และข้อ 2 จะถูกสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว
เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2563 จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ประกาศ ณ วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2563