รวบโจ๋ 14 ขโมยเงินร้านชำ 3 ครั้งรวด พบเคยขโมยอุปกรณ์แม่ค้าส้มตำในตลาด แต่เจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่อง สารภาพเอาเงินไปเล่นเกม

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีคนร้ายปีนรั้วเข้าไปขโมยกระป๋องเงินในร้านขายของชำแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.ท่าพล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ในช่วงกลางดึกวันที่ 13 ม.ค. 2564 โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายขณะก่อเหตุไว้ได้ ซึ่งร้านค้าดังกล่าวเคยถูกคนร้ายปีนเข้าไปขโมยของมาแล้ว 2 ครั้ง คือวันที่ 12 ธ.ค. และ 22 ธ.ค.2563 กระทั่งเกิดเหตุครั้งล่าสุดผู้เสียหายได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ท่าพล แต่ปรากฏว่าไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ต่อมา พ.ต.อ.ศรีธะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าในห้วงเวลาที่ผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์นั้น พนักงานสอบสวนคือ ร.ต.อ.กรเอก โภชนะสมบัติ ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันบริเวณสี่แยกกลาโหม ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ เมื่อกลับมาก็ไม่พบผู้เสียหายแล้ว หลังจากทราบข่าวจึงเดินทางไปพบผู้เสียหายและตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งทำความเข้าใจกับผู้เสียหายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พ.ต.อ.ศรีธะนนท์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามบุคคลที่มีลักษณะตามภาพกล้องวงจรปิด รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ในเบื้องต้นพอจะทราบแล้วว่าคนร้ายเป็นใคร เนื่องจากที่ผ่านมาเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันและถูกจับกุมตัวมาแล้ว สำหรับกรณีล่าสุดเพียงแต่รอรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าอีกไม่กี่วันจะสามารถจับกุมตัวได้อย่างแน่นอน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าพล ได้ควบคุมตัว ด.ช.เอ(นามสมมุติ) อายุ 14 ปี อาศัยอยู่หมู่ที่ 14 ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร พร้อมของกลางคือเสื้อและกางเกงที่ใส่ในวันก่อเหตุ

สอบสวน ด.ช.เอ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุเข้าไปขโมยเงินในร้านค้าดังกล่าวทั้ง 3 ครั้ง ครั้งแรกไม่ได้เงินเนื่องจากเจ้าของบ้านตื่นมาเจอก่อน ส่วนครั้งที่ 2 และ 3 ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง เมื่อได้เงินแล้วก็จะเอาไปเล่นเกมและซื้อขนมกิน

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า คนก่อเหตุมีลักษณะคล้ายกับที่เคยก่อเหตุขโมยอุปกรณ์ตำส้มตำของแม่ค้าในตลาดและถูกจับได้ แต่เจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาเรื่อง จึงบันทึกประวัติและปล่อยตัวไป เนื่องจากยังเป็นเยาวชน เมื่อนำตัวมาสอบสวนก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนเดียวกันกับที่ไปขโมยอุปกรณ์ส้มตำในตลาด รวมทั้งเข้าไปขโมยเงินในร้านค้าดังกล่าวทั้ง 3 ครั้งจริง สำหรับ ด.ช.ที่ก่อเหตุอาศัยอยู่กับพ่อที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี ส่วนแม่แยกทางกับพ่อไปนานแล้ว จึงทำให้เด็กขาดความอบอุ่นและติดเกม เมื่อไม่มีเงินจึงมาก่อเหตุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน