ชาวบ้านวัดใหม่ปากคลองมอญสุดผวา ถนนทรุดลงกว่า 2 เมตร ทั้งที่เพิ่งสร้างได้ 4 เดือน บ้านร้าวทั้งหลัง 5 ชีวิตวิ่งหนีตาย ออกมาเจอช็อกซ้ำ เผยไม่ได้ลงเสาเข็ม
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
วันที่ 3 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนที่พักอาศัยใกล้เคียงวัดใหม่ปากคลองมอญ หมู่ 7 ต.ศีรษะจระเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ว่าเกิดเหตุถนนคอนกรีตของหมู่บ้าน ทรุดพังเสียหายอย่างหนัก จึงเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง
- อ่านข่าว โดนอีกแล้ว! แพะชาวบ้าน เสือโคร่งขย้ำตาย อีกตัวเจ็บ คนเลี้ยงเล่าเฉียดตาย
- อ่านข่าว ตำนานบทใหม่แห่งการขายออนไลน์ ซีจีจัดเต็ม หนุ่มไลฟ์ขายกระเป๋า
- อ่านข่าว จากรุ่นพี่ถึงรุ่นน้อง! ชูวิทย์ โพสต์ถึงอิสรภาพ ‘สรยุทธ’ แจงชัดเหตุผลได้พักโทษ
จากการลงพื้นที่พบว่า ที่เกิดเหตุเป็นหมู่บ้านปากคลองมอญ และเป็นถนนคอนกรีตสายหลักที่ชาวบ้านใช้สัญจรเข้าออกหมู่บ้าน โดยถนนดังกล่าวพบว่าพังเสียหายและทรุดลงต่ำกว่าพื้นเดิมกว่า 2 เมตร ระยะทางกว่า 500 เมตร ทำให้ท่อประปาสายเมนที่ส่งน้ำเข้าหมู่บ้านหลายครัวเรือนแตกจนมีน้ำท่วมขังสูง ชาวบ้านต้องนำเครื่องสูบน้ำมาเร่งสูบน้ำออก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทรุดตัวมากไปกว่านี้
ขณะที่บรรดาเด็กในหมู่บ้านต่างพากันมาเล่นน้ำในที่เกิดเหตุอย่างสนุกสนานตารมประสาของวัยเด็ก โดยดินจากใต้พื้นถนนดังกล่าวได้ไหลลงสู่คลองด้านข้างซึ่งเป็นคลองทับนาง ที่เป็นลำคลองเชื่อมต่อรับน้ำจากลาดกระบังและคลองประเวศบุรีรมย์
นายชาญ กลั่นบางแก้ว เล่าว่า ตนและครอบครัว ซึ่งพักอาศัยในบ้านหลังสีเขียว ขณะเกิดเหตุตนและคนในบ้านรวม 5 ชีวิต กำลังพักผ่อนอยู่ ก็ได้ยินเสียงดังลั่นบ้าน เมื่อหันไปมองรอบๆ พบว่าบ้านแตกร้าวและมีเสียงดังตลอดเวลา จึงพากันวิ่งหนีตายออกมา แต่ก็ต้องตกใจหนักไปกว่านั้น เมื่อพบว่าถนนหน้าบ้านกำลังทรุดพังทะลายลงมา จึงพากันหนีออกมาในจุดที่ปลอดภัย แล้วรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้าน จนถึงขณะนี้ยังไม่กล้ากลับไปพักอาศัยภายในบ้าน หวั่นพังถล่มและเสาไฟฟ้าโคนลงมาทับอีก
ด้าน นายสุเทพ สุขปรั่ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 เปิดเผยว่า สำหรับถนนสายนี้เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จได้ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยไม่มีการลงเสาเข็มแต่อย่างใด ตัวพื้นคอนกรีตมีการเทปูนหนาประมาณ 20 เซนติเมตร จึงมีน้ำหนักค่อนข้างมาก อีกทั้งเป็นช่วงภัยแล้งที่มีระดับน้ำลดลงภายในคลอง จึงทำให้ดินชั้นล่างเกิดการสไลด์ตัว
ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 เดือน ที่ดินภายในวัดที่ติดคลองก็เดินการยุบตัวจนดึงศาลาวัดพังเสียหายไปแล้ว 2 รอบ จึงทำให้ อบต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งงบประมาณกว่า 29 ล้านบาท เตรียมสร้างเขื่อนเสาเข็มกันการสไลด์ตัวของดิน แต่ไม่ทันจะได้ก่อสร้างก็มาเกิดเหตุเช่นนี้ก่อน
เบื้องต้น นางนวลจันทร์ โพธิ์วิจิตร ปลัดอำเภอบางเสาธง ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และนำเรื่องดังกล่าวแจ้งไปยังนายอำเภอ และทางจังหวัดเพื่อเร่งหาทางช่วยเหลือและแก้ไขชั่วคราวให้กับชาวบ้านในพื้นที่ต่อไป
