‘เฉลิมชัย’ ตั้งศูนย์รับมือภัยแล้งทั่วประเทศ ปล่อยคาราวานเครื่องจักรกลช่วยเกษตรกร สั่งกรมชลฯ สอบบริษัทเอกชนวางท่อยักษ์สูบน้ำป้อนอุตสาหกรรม ทำน้ำเค็ม

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 6 ก.พ.64 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานปล่อยคาราวานเครื่องจักร เครื่องมือ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภัยแล้งปี 63/64 ว่า การบริหารจัดการน้ำภัยแล้งนี้ เตรียมเครื่องจักร กำลังคน เตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชน เกษตรกรทั่วประเทศ และจ้างเกษตรกร แรงงานที่ตนงานจากวิกฤติโควิด19 จำนวน 9.4 หมื่นคน งบ 5,662 ล้านบาท

สั่งการทุกสำนักงานชลประทานทุกพื้นที่เร่งแก้ไขปัญหาภัยแล้งจนถึงฤดูฝนหน้า รวมถึงการแก้ไขสถานการณ์ค่าความเค็มจากน้ำทะเลหนุนสูงกระทบระบบผลิตประปานครหลวง ซึ่งวางแผนรับมือน้ำทะเลหนุนสูงสุดในปีนี้อีก 6 ครั้ง โดยเริ่มกลางเดือนนี้จะหนุนสูงสุด ไปจนถึงเดือนเม.ย. ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยปล่อยน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนพระรามหก ผันน้ำแม่กลอง มาเจือจางไล่ความเค็มไม่ให้เกินค่ามาตรฐาน 0.25 กรัมต่อลิตร

“เตรียมมาตรการล่วงหน้าเรื่องของความเค็ม ขอให้ประชาชนสบายใจ วางแผนแก้ไขล่วงหน้า แม้ภาวะน้ำต้นทุนในเขื่อนมีน้อย จะต้องบริหารจัดการน้ำอุปโภค บริโภค มีเพียงพอไม่ให้กระทบพี่น้องประชาชน ประสานงานทุกภาคส่วน ขอให้เกษตรกรฟังข่าวสารจากราชการ ในเรื่องปลูกข้าวนาปรังลุ่มเจ้าพระยาปลูกเกินแผน 2.6 ล้านไร่

ขอความร่วมมือประชาชน เกษตรกร เราไม่อยากให้ปลูกเพราะน้ำมีจำกัด แต่เมื่อปลูกแล้วต้องแก้ไขให้ไปด้วยกัน สำหรับปริมาณน้ำใช้การได้วางแผนสำรองไว้ถึงเดือนมิ.ย. ถ้าฝนยังล่าช้ามีแผนสำรองน้ำไปอีก 60 วัน ถึงเดือนส.ค.ที่เข้าสู่หน้าฝนเต็มตัว ตามธรรมชาติจะตกมากหรือตกน้อยอย่างไรก็ต้องตก” นายเฉลิมชัย กล่าว

รมว.เกษตรฯ กล่าวอีกว่า ให้กรมชลประทานตรวจสอบด้วย กรณีส.ส.ในพื้นที่มาร้องเรียนในเรื่องน้ำที่ในภาคอุตสาหกรรม มีบางส่วนนำน้ำไปใช้ไม่แจ้ง กรมชลประทาน เช่น ที่ จ.ฉะเชิงเทรา มีบริษัทใหญ่ด้านน้ำ ไปติดตั้งท่อขนาดยักษ์สูบน้ำ 3-4 ท่อ ทำให้น้ำส่งไปผลักดัน ถูกดูดขึ้นไป ทำให้น้ำเค็มดันขึ้นมาลุ่มแม่น้ำบางปะกง-แม่น้ำปราจีนบุรี ตนขอย้ำน้ำใช้ในการเกษตร อุตสาหกรรม ความเป็นอยู่ของประชาชน ต้องบริหารจัดการให้อยู่กันได้ ในภาวะวิกฤติ น้ำสำคัญที่สุดยืนยันจะทำให้ผ่านพ้นไปให้ได้

ด้านนายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ลุ่มเจ้าพระยาใช้น้ำเกินแผน ดังนั้นขอให้สถานีสูบน้ำกว่า 300 แห่ง ตลอด 4 ลุ่มน้ำ ปิง วัง ยม น่าน ชะลอการสูบน้ำช่วงน้ำทะเลหนุนสูง เพื่อป้องกันค่าความเค็มกระทบระบบประปา ในปีนี้พื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคแล้ว 33 จังหวัด อยู่ในเขตชลประทาน 28 จังหวัด นอกเขต 5 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังด้านการเกษตร 40 จังหวัด 3.241 ล้านไร่

ส่วนพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ไม่มีแผนเพาะปลูก แต่ปลูกข้าวไปแล้ว 2.6 ล้านไร่ ทั้งนี้สำรองน้ำไว้ถึงต้นฤดูฝน 8,376 ล้านลบ.ม.ทั่วประเทศ พร้อมกับตั้งศูนย์เฉพาะกิจและบรรเทาวิกฤติภัยแล้งทุกพื้นที่

สำหรับค่าความเค็มเกิดตั้งแต่ 1 ก.พ.ถึง 30 เม.ย. จะเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูงสุด 6 ครั้ง สำหรับมาตรการผลักดันน้ำเค็ม ได้ระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสัก เปิดปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ กระชากน้ำเค็มลงไปได้ ขอความร่วมมือสถานีสูบน้ำตลอดแนวลำน้ำไม่สูบน้ำ เตรียมการผันน้ำจากแม่กลองมาช่วย 500 ล้านลบ.ม.ในภาวะจำเป็น ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้ทำหนังสือแจ้งเตือนหน่วยงานอื่นในพื้นที่ 4 พันกว่าครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน