แม่พิการขา วอนช่วยลูกสาว ถูกบังคับค้ากาม บาห์เรน เผยถ้าไม่ได้กลับตายแน่ หลังสมัครงานผ่านเฟซบุ๊ก หวังนำเงินมาซื้อขาเทียม สร้างบ้านให้แม่
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2564 ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง ได้รับแจ้งจากนางกิ่ง เกื้อคลัง อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98หมู่ 5 ต.คลองเฉลิม.อ.กงหรา จ.พัทลุง ผู้พิการขาซ้าย ว่า ลูกสาวชื่อกุ๊ก วัย 25 ปี สมัครงานผ่านเฟซบุ๊กไปทำงานที่ประเทศบาห์เรน หวังนำเงินมาสร้างบ้านให้แม่ที่อาศัยอยู่ในลำพังในบ้านเก่าที่ผุพังทรุดโทรม โดยลูกสาวบอกว่า อีก 3 เดือนจะกลับมา
นางกิ่ง กล่าวต่อว่า กระทั่งผ่านไป 2 เดือน ได้รับข่าวร้ายจากลูกสาวว่า ถูกบังคับให้ขายตัว และนายหน้าได้ยึดหนังสือเดินทาง โดยบอกว่าจะหักค่าหนี้ 2 แสนกว่าบาท เป็นเวลา 3 เดือน และอย่าคิดหนี ลูกสาวส่งคลิปวิดีโอขณะนอนร้องไห้ส่งมาให้เพื่อน พร้อมร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานในประเทศไทย ให้ช่วยนำกลับบ้าน ไม่อยากตายที่บาห์เรน
สาวส่งข้อความขอความช่วยเหลือจากเพื่อน
ด้าน น.ส.วาสนา หนูหนุด อายุ 26 ปี เพื่อนของกุ๊ก กล่าวว่า กุ๊กส่งคลิปและข้อความมาขอความช่วยเหลือหลายครั้ง หลังตกเป็นเหยื่อของเฟซบุ๊กจัดหางานต่างประเทศ ใช้ชื่อว่า BaM BaM ซึ่งเขียนข้อความระบุว่า ทำงานรายได้ดี เดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 1แสนบาท แต่ไม่ทราบว่าทำงานอะไร กุ๊กจึงสมัครไปทำงานเพื่อหวังหาเงินมาเลี้ยงแม่ที่พิการขา จัดซื้อขาเทียม และสร้างบ้านใหม่ให้แม่ แต่เมื่อไปถึงจึงรู้ว่าถูกหลอก และถูกบังคับให้ค้ากามป่าเถื่อน ตนไม่รู้จะพึ่งใคร จึงอยากให้สถานทูตไทยเข้าให้การช่วยเหลือ เพราะฐานะทางบ้านของกุ๊กก็ลำบาก
ด้าน น.ส.ปรียา เส็มหมาน และน.ส.ปริศา ยาชะรัด เพื่อนอีก 2 คนของกุ๊ก กล่าวว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือเพื่อน ที่เป็นห่วงที่สุดในตอนนี้คือแม่ของกุ๊ก ที่พิการขาและอาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง เมื่อทราบข่าวว่าลูกสาวตกอยู่ในสภาพแบบนี้ก็นั่งร้องให้ที่ประตูหน้าบ้านทุกวัน เห็นแล้วสงสารมาก อยากให้เจ้าหน้าที่รีบเข้ามาช่วยเหลือป้าด้วย
เฟซบุ๊กนายหน้าที่พาไปทำงาน
- ช่วยสาวไทยโดนนายหน้าลวงค้ากาม แฉถูกขัง-ทุบตี เหยื่อแชตไลน์หาพี่ช่วยพ้นซ่องนรก!
- หนีตาย! สาวไทย ถูกหลอกค้ากาม บาห์เรน รับแขกโหดสุดช้ำ ร้องให้ช่วย-รอดมาได้2
- แม่กอดโลงร่ำไห้! รับศพสาวไทยตกตึกดับปริศนาที่บาห์เรน หลังถูกหลอกบังคับค้ากาม
ล่าสุดวันที่ 12 ก.พ.2564 เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ BaM BaM ได้ชี้แจงผ่าน ข่าวสดออนไลน์ โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่เคยรู้จักกับผู้เสียหายเลย ซึ่งกรณีที่มีการนำชื่อเฟซบุ๊กของตนเองไปอ้าง ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก
