สาวแจงหลังคนเข้าใจผิด แบกพ่อใส่รถซาเล้ง มาลงทะเบียนเราชนะ เผยพ่อเพลียจากฟอกไต จึงต้องนอน ยันพ่อไม่ได้ป่วยติดเตียง ลุกนั่งเองได้ปกติ
เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด
จากกรณีโลกออนไลน์แห่แชร์ภาพลูกสาวพาพ่อที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง มาลงทะเบียนรับสิทธิ เราชนะ ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาบางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยนำพ่อใส่รถซาเล้ง เพื่อมาทำเรื่องรับสิทธิดังกล่าว จนมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องราวดังกล่าวจำนวนมาก
ล่าสุด วันที่ 16 ก.พ. 64 น.ส.ขวัญไพร อายุ 30 ปี ลูกสาว นายจรัญ อายุ 60 ปี เปิดเผยว่า ตนเดินทางไปที่ธนาคารกรุงไทย บริเวณ ท่าน้ำนนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อยืนเรื่องขอรับสิทธิในโครงการเราชนะให้กับ นายจรัญ พ่อของตนที่ป่วยเป็นโรคไต แต่ไม่ได้มาด้วย เนื่องจากว่าพ่อไปฟอกไตที่ รพ.มา เมื่อถามเจ้าหน้าที่ของธนาคารว่า ตนจะมาลงทะเบียนแทนพ่อได้ไหม เจ้าหน้าที่บอกว่าทำไม่ได้ หากจะทำเรื่องต้องให้พ่อซึ่งจะขอรับสิทธิมาทำเรื่องด้วยตนเอง
ตนจึงกลับมาที่บ้าน ซึ่งตอนนั้นพ่อกลับจากรพ. มาแล้ว โดยตนคิดว่าจะไม่พาพ่อไปลงทะเบียนในวันนี้ แต่จะไปในศุกร์ที่จะถึงนี้แทน เนื่องจากวันศุกร์พ่อไม่ต้องไป รพ. ฟอกไต จากนั้น ตนเดินทางไปที่ธนาคารกรุงไทยสาขาบางบัวทอง ตอน 12.00 น. เห็นไม่ค่อยมีคน จึงไปรับบัตรคิวมา เมื่อกลับมาบ้านแม่ของตนได้โทรศัพท์ไปหาลุง ถามว่าไปลงทะเบียนมาหรือยัง ลุงก็บอกว่ายังไม่ได้ไปทำว่าจะไปทำวันนี้
ก่อนจะชวนให้พาพ่อไปพร้อมกันเลย โดยลุงขับรถซาเล้งมารับที่บ้าน จากนั้นตนแม่ ลุงและพ่อจึงนั่งรถไปด้วยกันที่ธนาคารกรุงไทย สาขาบางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยตอนที่นั่งรถไปพ่อก็นั่งรถไปปกติ แต่เมื่อไปถึงที่ธนาคารพ่อเริ่มจะอ่อนเพลียจากการไปฟอกไต พวกตนจึงให้พ่อนอนในรถซาเล้งเพื่อให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
“ยืนยันว่าพ่อไม่ได้ป่วยติดเตียงขนาดต้องหามไปเพื่อลงทะเบียนใช้สิทธิแต่อย่างใด แต่จังหวะที่พ่อนอนอยู่นั้นมีคนเดินเข้ามาสอบถาม ก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นนักข่าว เขาถามว่าพ่อเป็นอะไร ตนก็บอกไปแล้วว่าพ่อเพลียจากที่ต้องเดินทางไปฟอกไตที่รพ. เมื่อกลับจากรพ. ก็มาทำเรื่องขอรับสิทธิที่ธนาคารต่อจนเกิดอาการอ่อนเพลีย จนมาทราบจากเพื่อนว่ามีข่าวพ่อ ว่าป่วยติดเตียงจนญาติห้องหามใส่รถซาเล้งมาทำเรื่องที่ธนาคาร” น.ส.ขวัญไพร กล่าว
น.ส.ขวัญไพร กล่าวต่อว่า ตนก็ตกใจ ทั้งที่พ่อไม่ได้เป็นผู้ป่วยติดเตียงแต่อย่างใด ลุกนั่งได้เองมาตลอด แต่จะมีอาการอ่อนเพลียบ้างเวลากลับจากรพ.หลังฟอกไตเสร็จ ตนกับแม่ไม่สบายใจเพราะมันไม่ใช้เรื่องจริง เหมือนเราเป็นคนโกหกยืนยันว่าตนกับแม่ไม่ได้ให้ข่าวแบบนั้นเลย ช่วยแก้ข่าวให้ตนด้วย
