ผัวถูกด่าแม่ โมโหจัดปลิดชีพเมียคาบ้าน ทั้งที่อยู่ด้วยกันแค่เดือนเดียว ตร.รวบตัวผัวโหดได้ขณะปั่น2ล้อหนี พบประวัติเคยฆ่าคนตาย ลูกสาวจี้ประหารชีวิต

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 27 ก.พ.64 ร.ต.อ.ไชยรัตน์ วงศ์ศรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ทะเมนชัย จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร และหน่วยกู้ภัยฯ ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เมื่อเข้าไปตรวจสอบบริเวณหน้าบ้านพบกองเลือด และรอยเลือดหยดเป็นทางยาวไปจนถึงในห้องนอน และพบศพ นางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณพื้นปูน พบมีดตะขอเปื้อนเลือดอยู่ภายในที่เกิดเหตุจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามเพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่า เมื่อคืนประมาณ 4-5 ทุ่ม ได้ยินเสียงผู้ตายทะเลาะกับสามีเสียงดังลั่น แต่คิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะหลังจากทั้งคู่มาอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาได้ประมาณ 1 เดือน ก็มีปากเสียงทะเลาะกันบ่อย จึงไม่มีใครเอะใจว่าจะเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น กระทั่งรุ่งเช้าเพื่อนบ้านที่เคยมาเล่นด้วยเดินผ่านมาหน้าบ้านเห็นกองเลือด และพบศพนางน้อย นอนเสียชีวิตอยู่ จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

เชื่อว่าคนก่อเหตุเป็นฝีมือของนายสิงห์ สามีวัย 71 ปี ชาว อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งพึ่งมาอยู่กินกับนางน้อย แบบสามีภรรยาได้ประมาณ 1 เดือน หลังก่อเหตุก็ปั่นจักรยานหลบหนีไป

กระทั่งเวลาประมาณ 10.30 น. วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทะเมนชัย สามารถจับกุมตัวนายสิงห์ ผู้ก่อเหตุได้ ขณะปั่นจักรยานกำลังจะผ่านหน้าโรงพัก มุ่งหน้าจะไปทางสถานีรถไฟ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพักเพียงประมาณ 500 เมตร แต่พอเจ้าหน้าที่สอบถามนายสิงห์ กลับอ้างว่ากำลังจะปั่นจักรยานมามอบตัวพอดี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะท้ายรถจักรยานมีถุงเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ จึงคาดว่าน่าจะตั้งใจหลบหนีไปขึ้นรถไฟมากกว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมนายสิงห์ ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำ

จากการสอบปากคำนายสิงห์ ผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุใช้มีดขอที่ใช้สำหรับตัดอ้อยกระหน่ำฟันนางน้อยจนเสียชีวิตจริง โดยอ้างว่าโมโหที่ถูกด่าบุพการีและต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคายหลายครั้ง จึงทนไม่ไหว ทั้งยอมรับว่าตนมาอยู่กินกับนางน้อย แบบผัวเมียได้ประมาณ 1 เดือน ที่ผ่านมาเวลาดื่มเหล้าเมาก็จะทะเลาะกันประจำ ก็เป็นธรรมดาของผัวเมีย แต่ครั้งนี้ทนไม่ไหวจริงเพราะด่าถึงบุพการี แต่ก็รู้สึกผิด และอยากจะขอโทษภรรยา ก็ไม่อยากให้จองเวรจองกรรมต่อกัน ส่วนตนก็จะขอรับโทษที่ได้ก่อ

ขณะบรรยากาศที่บ้านที่เกิดเหตุทางญาติ และเพื่อนบ้านก็กำลังช่วยกันจัดสถานที่เพื่อจัดงานศพผู้ตาย ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่คิดว่านายสิงห์ ซึ่งเพิ่งมาอยู่กินกับผู้ตาย จะลงมือฆ่ากันอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้ได้

โดยน.ส.ทุ่งทิวา อายุ 29 ปี ลูกสาวผู้ตาย บอกว่า หลังจากแม่อยู่กินกับนายสิงห์ก็มีปากเสียงกันบ่อย เพราะทั้งคู่ก็ชอบดื่มเหล้า เวลาเมาแล้วก็อาจจะพูดจาไม่เข้าหูกัน จึงทะเลาะกันซึ่งชาวบ้านก็ได้ยินจนเป็นเรื่องปกติ จึงไม่มีใครเข้าไปยุ่ง ส่วนที่ผู้ตายอ้างว่าสาเหตุที่ลงมือฆ่าเพราะแม่ด่าบุพการีนั้น ก็เป็นคำกล่าวอ้าง เพราะแม่ของตนตายไปแล้ว ไม่มีโอกาสได้ลุกขึ้นมาพูดหรือชี้แจงอะไร

แต่ก็ยอมรับว่าแม่ตนเป็นคนปากร้าย พูดจาเสียงดัง แต่ถึงจะมีปากเสียงกันยังไง ก็ไม่ควรจะลงทำกันรุนแรงถึงขั้นฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้ น่าจะแค่ดุด่าก็พอแล้ว ส่วนตัวตนไม่ขออโหสิกรรมหรือให้อภัยคนก่อเหตุ อยากให้ตำรวจลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เป็นไปได้ประหารชีวิตไปเลย

เพราะเมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว ผู้ต้องหาก็เคยก่อเหตุฆ่าคนตายถูกจับติดคุกมาแล้ว พอพ้นโทษออกมา 4-5 ปี ก็มาก่อเหตุฆ่าแม่ของตัวเองอีก หากปล่อยออกมาก็ไม่รู้จะไปฆ่าใครตายอีก เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายสิงห์ “ฆ่าคนตายโดยเจตนา”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน