ฝุ่น PM2.5 ในจ.แม่ฮ่องสอน เกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง 12 วัน และวันนี้วัดค่าฝุ่นได้ 162 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงสุดตั้งแต่ต้นปี 2564
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2564 กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน ที่สถานีตรวจวัด บริเวณต.จองคำ อ.เมือง ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ได้ 162 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- อ่าน ทส.ระดมช่วยภัยแล้งโคราช-พิจิตร จัดการน้ำเป็นระบบทั้งใต้ดินและผิวดิน
- อ่าน พายุฤดูร้อน ซัดพิจิตร 3 อำเภอโดนอ่วม ต้นไม้ขวางถนน หลังคาบ้านปลิวหาย
- อ่าน อุทยานฯ ลุยแจ้งจับมือบอน หักปะการังเขากวาง เกาะทะลุ พังพินาศกว่า 4 หมื่นกิ่ง
ซึ่งอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ ถือว่าสูงที่สุดในภาคเหนือเป็นค่าสูงสุดที่วัดได้นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64 เป็นต้นมา ปัจจุบัน ค่า PM2.5 ในพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอน เกินเกณฑ์มาตรฐาน ต่อเนื่องกันมา 12 วันแล้ว
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานสถานการณ์และคุณภาพอากาศประเทศไทยของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าช่วงนี้มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ของประเทศไทยตอนบน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ซึ่งกลุ่มเสี่ยงจะเกิดการเจ็บป่วยหรือมีผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงมากกว่าประชาชนทั่วไป หากสัมผัสฝุ่นละอองปริมาณมากเป็นระยะเวลานาน ขอให้ลดระยะเวลาในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เมื่อมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน และใช้อุปกรณ์ป้องกัน สวมหน้ากาก แว่นตา เสื้อแขนยาวขายาว และดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองคอ แสบคอ
ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษมี 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่กลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และกลุ่มที่มีโรคประจำตัว เมื่อได้รับฝุ่นจะเสี่ยงมีอาการรุนแรงได้ เช่น ผู้ป่วยภูมิแพ้ ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ ผู้ป่วยโรคตาอักเสบ เป็นต้น หากสงสัยหรือมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว