ผู้การฯขอนแก่น แจงปม แม่กราบป้ายโรงพัก ยันตำรวจทำถูกต้องตามขั้นตอน เผยคุมตัวผู้ต้องหาส่งศาลฝากขังเพื่อเอาผิดตามกฎหมายแล้ว
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 มี.ค.64 ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ,พ.ต.อ.ชาญศิลป์ นาสูงชน ผกก.สภ.ชนบท และ พ.ต.อ. ธนารัตน์ มีทองหลาง ผกก.สภ.แวงใหญ่ ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีนางเอ (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ที่กราบป้ายสถานีตำรวจภูธรชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เมื่อเย็นวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา
- หมดที่พึ่ง! แม่ก้มกราบป้ายโรงพักไม่รับแจ้งความ พ.ต.ท.แจงปัดโยนคดี
- แจงปม แม่กราบป้ายโรงพัก เหยื่อเผยวันหายตัว แม่โอดเหมือนตร.ไม่ใส่ใจ
- ‘นายปิ๊ก’ ยอมแล้ว! ขืนใจสาว เปิดปากเล่า บอกรักจริง ฝ่ายหญิงสวน ‘ไม่ต้องการ’
เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ลูกสาวและครอบครัว หลังจาก น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยจิตเวชหายตัวไป แล้วตามหาจนพบว่ามีผู้ชายหลอกลวงไปนอนด้วยที่บ้านและมีเพศสัมพันธ์กัน จึงแจ้งความคนหาย และแจ้งความในคดีขืนใจ ที่สภ.แวงใหญ่ และถูกส่งตัวไปตรวจร่างกายที่รพ.แวงใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ในรพ.แนะนำให้ไปตรวจร่างกายที่รพ.ชนบท และแจ้งความที่ สภ.ชนบท จึงนำตัวลูกสาวเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.ชนบท แล้วเข้าใจว่า ตำรวจไม่รับแจ้งและไม่ยอมดำเนินการใดๆให้ จึงไปกราบป้ายหน้าสภ.ชนบท
พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้น เป็นการหลอกลวงของฝ่ายชายที่หลอกฝ่ายหญิงออกจากบ้าน เพื่อพาไปทำอนาจารจริง เนื่องจากทั้งสองคนรู้จักกัน และมีการติดต่อพูดคุยกันทางโทรศัพท์เป็นประจำ จนกระทั่งวันที่ 12 มี.ค. ฝ่ายชายโทรศัพท์ชวนฝ่ายหญิงออกจากบ้าน จากนั้นฝ่ายชายได้พาไปที่บ้านพักตัวเองในพื้นที่บ้านหนองสะแบง ม.8 ต.ห้วยแก อ.ชนบท จ.ขอนแก่น และร่วมหลับนอนกัน จนกระทั่งวันที่13 มี.ค. มารดาและญาติก็ตามตัวจนพบว่า น.ส.เออยู่กับฝ่ายชายที่บ้าน
“เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับทางฝ่ายหญิงนั้น หากตรวจสอบตามไทมไลน์ จะพบว่า วันที่หายตัวไปนั้น หายไปพร้อมฝ่ายชายที่หน้าบ้านตัวเอง มารดาและญาติไม่ทราบเรื่องจึงไปแจ้งความคนหายที่สภ.แวงใหญ่ จากนั้นก็มีการออกตามหาลูกสาว กระทั่งเช้าวันที่ 13 มี.ค.พบตัวลูกสาวที่บ้านฝ่ายชาย จึงเดินทางเข้าแจ้งความที่สภ.แวงใหญ่อีกครั้งในคดีอนาจาร
ซึ่งเมื่อพนักงานสอบสวน สภ.แวงใหญ่ รับแจ้งจึงส่งตัวไปตรวจร่างกายที่รพ.แวงใหญ่ และนัดสอบปากคำอีกครั้งในวันที่ 16 มี.ค. ที่จะถึงนี้ แต่เมื่อถึง รพ.แวงใหญ่ เจ้าหน้าที่ทำการซักประวัติก่อนตรวจร่างกาย ทราบว่า ถูกอนาจารในพื้นที่ อ.ชนบท จึงแนะนำให้ไปแจ้งความที่ สภ.ชนบท ท้องที่เกิดเหตุ และตรวจร่างกายที่รพ.ชนบท จากนั้นมารดาและญาติจึงพาลูกสาวไปที่สภ.ชนบท ซึ่งพนักงานสอบสวนก็รับแจ้งและส่งไปตรวจร่างกายที่รพ.ชนบท”
ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า เมื่อไทม์ไลน์ออกมาแบบนี้จะทราบว่าตำรวจสภ.แวงใหญ่ ได้มีการดำเนินการรับแจ้งความ และดำเนินการตามขั้นทุกอย่างไปหมดแล้ว แต่จุดเปลี่ยนอยู่ที่ รพ.แวงใหญ่แนะนำญาติ ญาติจึงทำตาม และฟังการสื่อสารจากพนักงานสอบสวนสภ.ชนบท ไม่เข้าใจ จนเกิดเหตุการณ์กราบป้ายขึ้น
ซึ่งขณะนี้ ผกก.สภ.ชนบทและ ผกก.สภ.แวงใหญ่ มีการดำเนินการ ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับมารดาและญาติของฝ่ายหญิงจนเป็นที่เข้าใจ และมีการจับกุมตัว นายอเนก โคตรดา หรือนายปิ๊ก อายุ 38 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในข้อหา พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร จากนั้นนำตัวไปตรวจปัสสาวะที่รพ.แวงใหญ่ พบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้เสพยาบ้าจริง จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และคุมตัวส่งฟ้องฝากขังที่ศาลจังหวัดพล อ.พล จ.ขอนแก่น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว