วางยาในข้าวให้แม่ป่วยติดเตียงกิน ไม่สำเร็จ หนุ่มคลั่งเผาบ้าน ทำร้ายเมีย พบเพิ่งพ้นคุก ญาติๆเผ่นหนีไปซ่อนตัวที่บ้านคนอื่น หวั่นได้รับอันตราย

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 17 มี.ค.2564 นายศุภชัย หลวงสิทธิ์อายุ 60 ปี ผญบ.หมู่ที่ 4 ต.หนองเมือง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี รับแจ้งจากนางลำจวน (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ลูกบ้านว่า น้องชายคลั่งยาบ้าอย่างหนัก ถือมีดจะทำร้ายทุกคน และได้จุดไฟเผาบ้านตัวเองแล้ว จนเกิดเพลิงลุกไหม้ เกรงว่าไฟจะลามไปติดบ้านข้างเคียง ขอประสานรถน้ำดับเพลิง และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้ามาช่วยเหลือ

นายศุภชัย จึงรีบแจ้งรถดับเพลิงอบต.หนองเมือง รุดเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อทำการดับเพลิง ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.บ้านหมี่ เพื่อเข้าจับกุม ซึ่งผู้ก่อเหตุถืออาวุธมีดยาว ปรี่เข้ามาจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จนไม่สามารถทำงานได้

ขณะเดียวกันพบว่า ไฟกำลังจะลุกลามไปติดบ้านของนางสง่า (สงวนนามสกุล) อายุ 78 ปี ผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งเป็นแม่ของผู้ก่อเหตุ โดยมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากนางลำจวน พี่สาวผู้ก่อเหตุออกมาจากในบ้านเป็นระยะๆจนกระทั่งเวลาประมาณ 00.10 น. นางระเบียบ หลวงสิทธิ์ อายุ 53 ปี สมาชิก อบต.หนองเมือง เดินทางมาถึง ได้ทำการเกลี้ยกล่อมนายบรรเจิด ให้วางอาวุธ แล้วออกมามอบตัว จะไม่ให้ใครทำร้าย

เมื่อนายบรรเจิดได้ยินเสียง นางระเบียบผู้ที่คุ้นเคยกับครอบครัว จึงยอมวางอาวุธ ยืนให้เจ้าหน้าที่จับกุมแต่โดยดี ค้นในตัวพบยาบ้าซุกซ่อนในกระเป๋ากางเกง 16 เม็ด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง รีบกรูเข้าไปนำตัวนางสง่า ออกมาจาดบ้านได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งฉีดน้ำดสกัดเพลิงจนสงบ แต่ก็ทำให้บ้านเลขที่ 31/1 หมู่ที่ 4 ต.หนองเมือง ซึ่งเป็นบ้านของนายบรรเจิด เสียหายไปทั้งหลัง

นายชูชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี พี่เขย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ นายบรรเจิดเสพยาบ้าอย่างหนัก เดินวนเวียนรอบบ้าน แล้วเอายาฆ่าแมลงชนิดผงคลุกข้าว 2 จาน สำหรับตนเองและแม่ ตนเองมาเห็นก่อนจึงไปเตะจานข้าวคลุกยาฆ่าแมลงทิ้ง ทำให้นายบรรเจิดโกรธและคลุ้มคลั่ง เดินถือมีดถือไม้จะมาทำร้าย พวกตนต้องไปหลบซ่อนอยู่ที่บ้านคนอื่น กระทั่งนายบรรเจิดมาเผาบ้านกลางดึกแล้วทำร้ายภรรยาที่อยู่กินกันมาหลายปี จนบาดเจ็บสาหัส และต้องหนีไป

นางลำจวน พี่สาว กล่าวว่า น้องชายเพิ่งออกจากคุกมายังไม่ถึง 3 เดือน ข้อหาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หลังจากนั้นไม่ได้ทำงานทำการอะไร แต่ไม่รู้ว่าไปเอายาบ้ามาจากไหนมาเสพ เมื่อเช้าไปเยี่ยมที่โรงพักสอบถาม ร.ต.อ.เศรษฐา สาระนันท์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านหมี่ ร้อยเวรเจ้าของคดี ทราบว่ายังไม่สามารถสอบสวนเพิ่มเติมอะไรได้

เนื่องจากนายบรรเจิด ยังนั่งยิ้มคนเดียวอยู่ในห้องขัง ไม่พูดไม่จาซึ่งคงต้องรอให้ฤทธิ์ยาบ้าที่เสพคลายลงเสียก่อน ซึ่งยังไม่รู้ว่าตอนไหน ถึงจะควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษไว้ในความครอบครองไว้ 1 ข้อหา ส่วนเรื่องเผาบ้านนั้นยังไม่มีใครมาแจ้งความดำเนินคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน