ผู้เสียหายพร้อมทนายความ และชาวบ้านกว่าร้อยคน ขึ้นโรงพักแจ้งจับ พ.ต.ท. หัวหน้าชุด ชปส. หลังนำกำลังเข้าตรวจค้น ในบริเวณที่พักอาศัย โดยไม่มีหมาย

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2564 ทีสภ.เมืองพัทลุง นายชวลิต ทองด้วง อายุ 34 ปี พร้อมนายชัชวาล บำรุงวงศ์ ทนายความ เข้าพบพงส.สภ.เมืองพัทลุง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับพ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง สว.กก.สส.ภจว.พัทลุง หัวหน้าชุด ชปส. ในข้อหาร่วมกันบุกรุก และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เข้าที่ดินของผู้อื่นโดยไม่มีหมายค้นทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว

นายชวลิต กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 18 มี.ค. 64 พ.ต.ท.วิรัตน์ พร้อมกำลังตำรวจได้เข้าไปในที่ดินของตน บริเวณพื้นที่ ม.6 ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง ซึ่งจุดดังกล่าว ตนได้ขึ้นป้ายไว้ป้ายว่า เป็นที่ดินส่วนบุคคล แต่ตำรวจได้เข้าไปค้นบริเวณใต้ถุนและยังได้ใช้อาวุธปืนสงคราม จ่อไปที่คนงาน 2 คน ที่ทำงานอยู่บริเวณบ้าน

ซึ่งตนมองว่าการกระทำของตำรวจเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งทำให้คนงานของตนเกิดความตกใจกลัว จนไม่สามารถทำงานได้ การเข้าไปในที่ของตน เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีหมายค้น และไม่ได้แสดงบัตรว่าเป็นตำรวจ ตนพร้อมทนายความจึงเดินทางมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับพ.ต.ท.วิรัตน์ พร้อมพวกดังกล่าว

ด้านพ.ต.ท.วิรัตน์ ได้ทำรายงานชี้แจง เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 64 เวลา 13.00 น. ตนได้เข้าจับกุมนายสุธรรม จำใบรัตน์ หรือสอง พร้อมของกลางยาบ้า 85 เม็ด ใบพืชกระท่อมสด จำนวน 1 กก. อาวุธปืนพกสั้นชนิดประกอบขึ้นเอง ใช้กระสุนปืนลูกซอง 1 กระบอก กระสุนปืน 2 นัด รถจยย. 1 คัน เหตุเกิดในขนำพื้นที่ ม.8 ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน

และได้ทำการสอบสวนขยายผลทราบว่าบริเวณขนำริมคลองชลประทานในพื้นที่ ม.6 ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง มีการมั่วสุมยาเสพติด ตนและเจ้าหน้าที่จึงเดินทางเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงจุดดังกล่าวไม่พบผู้ใดอยู่ที่บริเวณขนำ จึงได้ขับรถเลียบไปตามถนนสายเลียบคลองชลประทาน พบชายวัยรุ่น 2 ราย กำลังขุดหลุมอยู่ในลำคลอง ซึ่งเป็นคลองสาธารณะ

ตนจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเมื่อไปเข้าไปตรวจสอบบุคคลทั้งสองพบเป็นนายกาย กับนายโมทย์ ซึ่งทั้งคู่เคยถูกตนจับในข้อหายาเสพติดมาก่อน แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตรวจค้นเพราะทั้งคู่อยู่ในสภาพนุ่งกางเกงขาสั้น และไม่สวมเสื้อ ทำให้มองเห็นได้ชัด สอบถามทั้งสองบอกว่าขุดหลุมฝังตอม่อเพื่อสร้างขนำในลำคลอง ตนและกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางกลับ

ตนพร้อมยืนยันในการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้บังคับหรือข่มขู่ หรือทำให้ทรัพย์สินของทั้งสองคนได้รับความเสียหายทั้งมิได้ทำให้ทั้งคู่ได้รับอันตราย และไม่ได้มีการเรียกเอาทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดมาเป็นประโยชน์ส่วนตัว

พ.ต.ท.วิรัตน์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่ากระทบกับความรู้สึก เพราะตนมีความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่มาโดยตลอด ไม่คิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น แต่ก็พร้อมจะเดินหน้าในการทำงานเช่นเดิม ขอเพียงแค่ให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ ตลอดจนผู้บังคับบัญชาเข้าใจเท่านั้นเป็นพอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน