สาวฝึกงานโอด พลาดท่ามิจฉาชีพ ขอลองใส่ทอง ก่อนเนียนเดินหาย

ภาพกล้องวงจรปิด จับชัด หญิงมิจฉาชีพ ทำทีมาซื้อทอง พอขอลองกลับไม่ถอดคืนให้ ทำเนียนชวนคุย ก่อนอาศัยจังหวะใส่กระเป๋า เดินจากไปพร้อมสร้อยข้อมือ

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

วันที 31 มี.ค. 2564 น.ส.บุษบา แก้วเงินลาด อายุ 21 ปี พนักงานขายฝึกงาน เปิดเผยว่า มีมิจฉาชีพเป็นผู้หญิงรายหนึ่ง ทำทีเข้ามาซื้อทองที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาสระบุรี ภายในห้างสรรพสินค้า โดยลองใส่สร้อยข้อมือทองคำ 2 เส้น พร้อมชวนคุยนานกว่า 30 นาที ก่อนอาศัยจังหวะเดินหลบหนีไปพร้อมกับสร้อยข้อมือทองคำ 1 เส้น

• อ่าน ปคม.รวบหนุ่มก่อสร้าง ชำเราญาติ อายุไม่ถึง 15 ปี หนีคดีหัวซุกหัวซุน
• อ่าน หาม ‘พระปูหลน’ ส่งรพ. หลังเครียดทำสาวท้อง น้องสงสาร ชี้เป็นวิบากกรรม
• อ่าน รวบแก๊งสวมรอยเป็นเจ้าของบัญชี หลอกพนง.แบงก์ ถอนเงินเกลี้ยง 8 ล้าน!!

น.ส.บุษบา กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 64 มีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้าน จับภาพเหตุการณ์ไว้ได้อย่างชัดเจน โดยมิจฉาชีพรายนี้เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อคลุมสีเทา สวมหมวกและหน้ากากอนามัย สะพายกระเป๋าเป้ไว้ด้านหน้า โดยมุ่งตรงมาที่ตนซึ่งเป็นพนักงานขายฝึกงาน เพิ่งมาฝึกงานได้เพียง 1 เดือน

ภาพกล้องวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์ได้ว่า มิจฉาชีพรายนี้เข้ามาสอบถามสร้อยข้อมือทองคำ พยายามหว่านล้อมพูดคุยกับพนักงานขาย ก่อนจะขอให้หยิบสร้อยทองข้อมือ หนัก 2 สลึง จำนวน 2 เส้น โดยทดลองใส่ที่ข้อมือทั้ง 2 ข้าง ก่อนจะถอดคืนให้มาก่อน 1 เส้น

จากนั้นก็ออกอุบายเดินไปดูสร้อยคอพร้อมกับสร้อยข้อมือที่ยังติดอยู่กับ อีก 1 เส้น โดยพยายามหาจังหวะแกะสร้อยข้อมืออยู่ตลอดเวลา จากนั้นก็ทำทีหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋าที่สะพายไว้ด้านหน้า ที่โดยมือทั้ง 2 ข้าง ล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อปลดล็อกตะขอสร้อยข้อมือ แล้วใส่ลงไปในกระเป๋าอย่างแนบเนียน จากนั้นก็รีบเดินจากไป

หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ และพนักงาน ร้านทอง ได้นำคลิปภาพ ไปแจ้งความไว้แล้วที่สภ.เมืองสระบุรี พร้อมทั้งนำคลิปไปโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ เพื่อให้ผู้ที่พบเห็นพฤติกรรม หรือพบเจอหญิงรายนี้ แจ้งเบาะแสกลับมาให้กับตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดี

น.ส. บุษบา กล่าวต่อว่า หญิงรายดังกล่าวพยายามชวนคุยอยู่นานกว่า 30 นาที ทำให้ตนลืมไปว่า ได้สวมสร้อยข้อมือให้ไป 2 เส้น กระทั่งเมื่อผู้จัดการร้านตรวจสอบสร้อยหลังจากเตรียมจะปิดร้าน จึงทราบว่าหายไป 1 เส้น น้ำหนัก 2 สลึง มูลค่า 13,270 บาท

โดยปกติตนจะต้องมีพี่เลี้ยงคอยประกบขณะทำงานตลอดเวลา เนื่องจากตนยังไม่ชำนาญ แต่ขณะนั้น ไม่มีใครว่าง จึงเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพตรงเข้ามาลงมือกับตนที่เป็นพนักงานขายหน้าใหม่จึงไม่ทันระวังเล่ห์เหลี่ยมของมิจฉาชีพ