เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่าง ๆ ของ จ.ขอนแก่น ได้มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ตามหอพักและอพาร์ทเม้นต์ต่าง ๆในพื้นที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่สามารถบันทึกภาพคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร รูปร่างผอม ตระเวนงัดห้องพักของหอพักต่าง ๆ เพื่อเข้าไปลักทรัพย์ โดยไม่เลือกเวลาในการก่อเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าภาพเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งเตือนประชาชนรวมทั้งการขอเบาะแสเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.ท.นรวัฒน์ คำภิโล รอง ผกก.(สส.)สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่มีภาพปรากฎในคลิปวีดีโอดังกล่าวได้แล้ว คือนายพีรพล อินทร์พรหม อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/123 ม.21 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้ลงพื้นที่หาเบาะแสตัวคนร้าย

พ.ต.ท.นรวัฒน์ กล่าวต่อว่า กระทั่งทราบว่าหลบหนีเข้าพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ให้ช่วยจับกุม โดยพบตัวนายพีรพลอาศัยอยู่ในซ.เทพประสิทธิ์ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ท่าทางคล้ายคนติดยาเสพติดและมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมและพบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของสภ.เมืองขอนแก่น จึงนำผู้ต้องหาส่งต่อให้ทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบสวนนายพีรพล ให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ตามหอพักภายในพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่นมาแล้ว 4 ครั้ง ตามที่มีหมายจับของสภ.เมืองขอนแก่น และเคยต้องโทษในคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อปี 2554 ซึ่งเพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2559 และไม่รู้จะไปประกอบอาชีพอะไร จึงกลับมาก่อเหตุลักทรัพย์อีกที่ จ.ขอนแก่น กระทั่งพอรู้ว่าตัวเองมีหมายจับ จึงขับรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุหลบหนีมาที่ จ.ชลบุรี

นายพีรพล ให้การอีกว่า สำหรับทรัพย์สินของผู้เสียหายทั้งโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก สร้อยคอทองคำ แหวน หรือกล้องถ่ายรูปที่โขมยมาได้ ก็จะนำไปขายตามร้านรับซื้อสินค้ามือสองและร้านรับจำนำต่าง ๆ ทั้งหมด เพื่อนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

พ.ต.ท.นรวัฒน์ กล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนยังพบว่านายพีรพล ผู้ต้องหารายนี้ไม่ได้ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลเพื่อติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่แนวทางการสืบสวนสอบสวน พบว่าคนร้ายรายนี้ไม่ได้เลือกเวลาในการลงมือก่อเหตุ โดยหากพบว่าไม่มีคน หรือสบโอกาส คนร้ายก็จะลงมือก่อเหตุทันที

ทั้งนี้ หลังจากสอบปากคำแล้วเสร็จ จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือพาทรัพย์นั้นไป และ ข้อหา ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้น ก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน