เมื่อเวลา 13.09 น. วันที่ 14 พ.ย. ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประธานในพิธีสักการะตอไม้จันทน์หอม โดยมีนายชาตรี จันทร์วีระชัย นายอำเภอกุยบุรี พร้อมด้วยข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชนชาวกุยบุรีและใกล้เคียงกว่าพันคนเข้าร่วมในพิธีกว่า 1,000 คน
สำหรับพิธีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 14 พ.ย.59 เจ้าหน้าที่กองพิธีการ สำนักพระราชวัง ประกอบพิธีบวงสรวงตัดไม้จันทน์หอม เพื่อจัดสร้างพระโกศจันทน์ทรงพระบรมศพ ประดิษฐานเหนือพระจิตกาธานบนพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง ซึ่งในวันนี้เป็นวันครบรอบ 1 ปี ของการตัดไม้จันทน์หอม ชาวกุยบุรีจึงถือเอาวันนี้มาร่วมกันนำดอกไม้สีเหลืองมาถวายสักการบูชาเทพาอารักษ์ที่ปกปักรักษาตอไม้จันทน์หอมและป่ากุยบุรี โดยตามราชประเพณีไม้จันทน์หอม ที่นำไปใช้สร้างพระโกศต้องเป็นต้นที่ยืนตายตามธรรมชาติหรือตายพรายเท่านั้น
ซึ่งหลังจากนั้นก็ร่วมกันยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที จากนั้นประธานได้ นำดอกไม้สีเหลืองมาวางบนพานเพื่อสักการบูชาตอไม้จันทน์หอมเป็นคนแรก และประชาชนชาวกุยบุรีต่างทยอยกันเดินต่อแถวร่วมวางดอกดอกเรืองและดอกไม้สีเหลืองเพื่อสักการบูชา โดยไม่มีการจุดธูปเทียนแต่อย่างใด
ส่วนการจัดสร้างพระโกศสำหรับพระมหากษัตริย์พระบรมวงศานุวงค์ จะถูกนำมาแปรรูปจากท่อนฟืนขึ้นเป็นลวดลายขึ้นเป็นพระโกศไม้จันทน์ ซึ่งโดยรวมแล้วจะให้อยู่ในลักษณะเป็นลายเครื่องประดับของไทยที่มีความงดงาม และใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ และอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เป็นแหล่งที่มีไม้จันทน์หอมมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเคยใช้ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชครินทร์ และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกมาแล้ว ซึ่งหลังจากตัดไม้จันทน์หอมแล้วจะปลูกไม้ทดแทน และมีการรักษาตอไม้ที่ตัดออกไปใช้งาน เพื่อให้เป็นที่เคารพสักการะสืบต่อไป
