แม่ค้าร้านลาบ จ.เพชรบูรณ์ สุดทน ขึ้นป้าย “กูไม่ให้เซ็น” หลังถูกลูกค้า กินไม่จ่าย แฉบางรายมาเป็นกลุ่ม ขับรถคันเป็นล้าน เผย เคยโดนมาแล้วกว่า 5หมื่นบาท

วันที่ 20 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีร้านขายลาบและอาหารตามสั่งแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพชรบูรณ์ ได้ติดป้ายข้อความสำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะกินแล้วจะลงบัญชีไว้ พร้อมกันนี้ได้มีป้ายข้อความประกาศห้ามลูกค้ารายหนึ่งเข้ามากินที่ร้าน เนื่องจากมากินและลงบัญชีไปแล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่กลับมาจ่ายเงินเลย รวมทั้งป้ายขอร้องลูกค้าที่มานั่งกินอาหารภายในร้ายไม่ให้ถามข้อมูลส่วนตัวหลาย ๆ อย่าง

หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบร้านค้าดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้กับสถานีขนส่งจังหวัดเพชรบูรณ์ชื่อ “ร้านลาบยโส” เป็นอาคารพานิชย์ 3 ชั้น ภายในร้านได้ติดป้ายประกาศ 3 ป้าย โดยป้ายแรกเป็นป้ายขนาดใหญ่ติดอยู่กับฝาผนังมีข้อความว่า “คุณสมบัติของการขอเซ็น 1.รูปถ่ายหน้าตรง 2 ใบ/สำเนาทะเบียนบ้าน/สำเนาบัตรประชาชน 2.ต้องมีภูมิลำเนาใน จ.เพชรบูรณ์เท่านั้น (สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 1 ปี) 3.ทะเบียนสมรสกรณีแต่งงาน หรือคู่สมรสต้องนำเอกสารทุกอย่างเหมือนคนขอเซ็น 4.ข้าราชการซี 5 ค้ำประกัน วงเงินไม่เกิน 200 บาท 5.ถ้าต้องการวงเงินเพิ่มไม่เกิน 300 บาท ต้องมีข้าราชการซี 8 ค้ำประกัน

แม่ค้าร้านลาบ จ.เพชรบูรณ์ สุดทน ขึ้นป้าย "กูไม่ให้เซ็น" หลังถูกลูกค้า กินไม่จ่าย

แม่ค้าร้านลาบ จ.เพชรบูรณ์ สุดทน ขึ้นป้าย “กูไม่ให้เซ็น” หลังถูกลูกค้า กินไม่จ่าย

6.ขอลงบันทึกประจำวันว่าจะสามารถมาชำระได้วันไหน 7.ขอไลฟ์สดลงเฟซ แชร์ในไลน์กลุ่มเพื่อนทุกกลุ่ม รวมถึงเฟซของผู้ขอเซ็น หมายเหตุ ถ้าเอกสารไม่ครบ ไม่สามารถทำตามข้อกำหนด ถือว่าการขอเซ็นไม่ผ่าน และห้ามถามว่าทางร้านให้เซ็นไหม ***กินแล้วลืมกระเป๋ามา ไม่มีเงินจ่าย ขอแจ้งความโดยไม่มีข้อแม้ จากเจ๊อ้อ ลาบยโส #เอาตรงประเด็นกูไม่ให้เซ็นอย่าถาม”

จากการสอบถาม นางธัญญนันท์ สุวรรณวัจน์ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ตนเปิดร้านขายลาบมากว่า 20 ปี ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีก็ไม่มีปัญหาอะไร ลูกค้ามานั่งกินก็จ่ายตามปกติ ไม่มีใครเซ็นไว้ และกระทั่ง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีลูกค้ามานั่งและหลังจากกินเสร็จก็บอกว่าลืมเอากระเป๋าเงินมาขอเซ็นไว้ก่อน ซึ่งตนก็เห็นว่าเคยเห็นหน้าก็เลยให้เซ็นไว้ แต่แล้วก็หายหน้าไปเลย

“และที่ช้ำใจสุด ๆ มีลูกค้ากลุ่มใหญ่ประมาณ 17 คน ซึ่งแต่ละคนก็ขับรถราคาเป็นล้านมานั่งกิน เมื่อเช็คบิลประมาณ 3,000 กว่าบาท ปรากฏว่าไม่มีใครพกกระเป๋าเงินมาเลย ซึ่งก็มีอยู่ 1 คนที่รู้จักบอกว่าขอเซ็นไว้ก่อน เราก็เห็นว่าการแต่งตัวดี ขับรถราคาเป็นล้านคงไม่เบี้ยวแน่จึงให้ลงชื่อไว้ ต่อมาวันรุ่งขึ้นชายคนดังกล่าวก็มาอีก โดยบอกว่ามีเงินสดอยู่ 500 บาทขอสั่งอาหารและนั่งกินที่ร้านแล้วจะจ่ายให้ทั้งหมด เราจึงให้นั่งกิน เมื่อเช็คบิลรวมแล้ว 520 บาท จึงลดให้เหลือ 500 บาท และขณะที่เรากำลังดูลูกค้ารายอื่นอยู่ จู่ ๆ ชายคนดังกล่าวก็คว้าขวดเหล้าและก็วิ่งขึ้นรถขับหนีไปหน้าตาเฉย” นางธัญญนันท์ กล่าว

นางธัญญนันท์ กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกโกรธมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร จะไปแจ้งความลูกค้าก็อยู่ที่ร้านหลายคน จึงได้แต่ร้องไห้ และด้วยความโมโห ตนจึงร่างข้อความดังกล่าวติดไว้เพื่อให้ลูกค้าได้อ่าน ดูแล้วหากจะเซ็นจริง ๆ ค่อนข้างยุ่งยาก แต่สรุปง่าย ๆ คือต่อไปนี้ ตนไม่ให้เซ็นแล้ว

นางธัญญนันท์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีลูกค้ารายหนึ่งชื่อ “โจ” มาสั่งอาหาร เครื่องดื่ม หลังจากกินเสร็จแล้วก็วิ่งหนีหน้าตาเฉย ตนจึงเขียนป้ายประจานไว้ข้อความว่า “ห้ามนายโจ รูปร่างผอม ขาว เข้าร้าน เนื่องจากมีพฤติกรรมกินอาหารเครื่องดื่มแล้วรอจังหวะหนี ถ้าอยากเซ็น อยากกินฟรี ต้องเอาศักดิ์ศรีความเป็นคนของตัวเองมาแลกนะคะ”

เจ้าของร้าน กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ตนไม่ไปแจ้งความ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย เพราะตนเป็นผู้หญิงอยู่ร้านเพียงคนเดียว ซึ่งเปิดขายตั้งแต่เที่ยงวัน-เที่ยงคืน เกรงว่าจะเกิดอันตราย ตั้งแต่เปิดร้านมามีลูกค้ามากินและไม่จ่ายเงินรวมแล้วกว่า 50,000 บาทเลยทีเดียว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน