จับจริงปรับจริง! คนไม่สวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้าน ศาลสุราษฎร์ฯ พิพากษาแล้ว ปรับ 4,000 บาท รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 2,000 บาท

เมื่อวันที่ 21 เม.ย.64 ที่จ.สุราษฎร์ธานี ศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ออกประกาศข่าวศาล จับจริง ปรับจริง โดยวันนี้พนักงานอัยการ คดีศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ยื่นฟ้องผู้ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัย 1 รายในพื้นที่อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ตามคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ 2323/2564 เรื่องให้ประชาชนในจ.สุราษฎร์ธานี สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง ตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนักของตน ในฐานความผิดตามมาตรา 51 แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดยศาลมีคำพิพากษาปรับ 4,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 2,000 บาท

ส่วนที่อาคารเอนกประสงค์รินทอง วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี มีประชาชนประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ไปเที่ยวสถานบันเทิง 8 แห่งในอ.เมืองสุราษฎร์ธานี และนักศึกษาที่ไปร่วมงานรับประกาศนียบัตร ได้ทยอยเดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19

ทั้งนี้ ได้พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 41 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มคลัสเตอร์สถานบันเทิงที่พบจากการตรวจหาเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงสูง ด้วยรถตรวจหาเชื้อชีววิทยาพระราชทาน 326 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 273 ราย รักษาหายแล้ว 8 ราย เหลือยังรักษาที่โรงพยาบาล 265 ราย

ล่าสุดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกาศด่วนให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดในครัวเรือน ที่อย่บ้านเดียวกับผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคนและบุคคลที่มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 ให้ไปรับการตรวจหาเชื้อโดยรถพระราชทานเคลื่อนที่ ที่วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี ภายในวันที่ 22 เม.ยง

นพ.ศักดิ์ชัย ตั้งจิตวิทยา ผู้อำนวยการโรงพยายาลสุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนามสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้คัดกรองผู้ป่วยในกลุ่มที่ไม่มีอาการไปพักตัว เพื่อควบคุมโรคในโรงพยาบาลสนามท่าโรงช้าง อ.พุนพิน 96 ราย และโรงพยาบาลสนามราชภัฏสุราษฎร์ธานี 40 ราย รวม 136 ราย และภายใน 2 สัปดาห์นี้ถ้าสามารถค้นหาผู้ป่วยและนำตัวไปควบคุมโรคได้ สถานการณ์แพร่ระบาดคลัสเตอร์สถานบันเทิงจะลดลง ซึ่งเตรียมโรงพยาบาลสนามไว้ 400 เตียง จะเพียงพอต่อการองรับผู้ป่วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน