หนุ่มหลอกเพื่อนที่เป็นพระ และญาติให้มาถ่ายรูปบอกบุญ ขอรับเงินบริจาคบวชพระ ได้เงินไปเป็นแสน ก่อนพระและญาติไหวตัวเข้าแจ้งความ

วันที่ 10 พ.ค. 64 ที่ สภ.วารินชําราบ จ.อุบลราชธานี พระปิยะวัฒน์ ปุยฝ้าย อายุ 30 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบ้านบัววัด ต.ธาตุ อ.วารินชำราบ พร้อม นายนนท์ติชัย โสภากุล อายุ 33 ปี และ นายบุญมี ศรีด้วง อายุ 27 ปี เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นายจักรพล อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมศึกษาข้อหาฉ้อโกงประชาชน

พระปิยะวัฒน์ เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมนี้ นายจักรพล เข้ามาหาที่วัดอ้างอยากทำบุญ โดยจะจัดบวชให้กับญาติที่ต้องการบวชพระ แต่ไม่มีปัจจัยแบบเรียบง่าย จึงมาติดต่อเรื่องการบวช พร้อมถามว่าทางวัดต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ จึงได้แนะนำให้นำตัวผู้ที่จะบวชมาพบและแจ้งความประสงค์กับเจ้าอาวาส พร้อมบอกความต้องการอยากได้พระประธานมาประดิษฐานในศาลา เพื่อให้ชาวบ้านได้กราบไหว้

จากนั้น นายจักรพล ได้นำชาวบ้านโนนกลาง ต.ธาตุ จำนวน 2 คน ซึ่งพระปิยะวัฒน์ก็รู้จักมาพบเจ้าอาวาส โดยกำหนดจะบวชให้กับคนทั้งคู่ในวันที่ 12 พ.ค. ต่อจากนั้น นายจักรพลได้ชวนให้เปิดบัญชีที่ธนาคารแห่งหนึ่งในอำเภอวารินชำราบ เพื่อรับเงินโอนซื้อพระประธานและใช้จ่ายเรื่องตั้งกองบวช

เมื่อเปิดบัญชีเรียบร้อย นายจักรพล ขอเก็บสมุดบัญชีไว้ ให้ พระปิยะวัฒน์ ถือบัตร ATM ไว้ แต่ขณะเดียวกันนายจักรพลเอามือถือตัวเองให้เจ้าหน้าที่ธนาคารลงแอปพลิเคชั่นแบงก์กิ้ง ซึ่งตนไม่เข้าใจเป็นแอปใช้ทำอะไร ก็ไม่ได้สงสัยจะสอบถาม เมื่อกลับมาที่วัดก็ให้ตนถือสมุดบัญชี ให้ผู้จะบวชทั้งสองนั่งคุกเข่าอยู่ด้านข้าง พร้อมใช้มือถือถ่ายรูปไว้ โดย นายจักรพล บอกจะส่งให้คนรู้จักว่าได้ทำบุญแล้ว

กระทั่งผ่านมาสองสามวันทราบข่าวจากชาวบ้าน มีคนประกาศบอกบุญขอรับเงินบริจาคผ่านเฟซบุ๊กช่วยชาวบ้าน 2 คนดังกล่าว ที่ต้องการบวชแต่ขาดปัจจัย เพราะยากจน พร้อมยังรับบริจาคซื้อพระประธานมอบให้กับทางวัดด้วย จึงรู้ว่าถูกหลอก ทำให้วัด และ พระปิยะวัฒน์ รวมทั้ง ชาวบ้าน 2 คน ได้รับความเสียหาย จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ นายจักรพล

วันเดียวกันก็เดินทางไปแจ้งกับทางธนาคารปิดบัญชีที่เพื่อน 18 มงกุฏ จากการตรวจสอบพบมีเงินโอนจากผู้ใจบุญจากทั่วประเทศกว่า 2 แสนบาท และมียอดที่ถูก นายจักรพล ถอนออกไปแล้วกว่า 1 แสนบาท

ด้าน นายนนท์ติชัย กล่าวว่า รู้จักนายจักรพล เพราะมีศักดิ์เป็นญาติกัน แต่ไม่ได้เจอกันมานาน กระทั่งมาหาตนที่บ้านบอกว่า ต้องการทำบุญให้คนที่ต้องการบวชพระ และพูดชักชวนให้ตนมาบวช โดยจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ซึ่งตนขณะนี้ก็ไม่มีงานทำ ก็เลยสนใจจะบวชทดแทนบุญคุณให้กับมารดา 15 วัน พร้อมกับไปชวน นายบุญมี เพื่อนข้างบ้านมาบวชเป็นเพื่อนกัน

จากนั้น นายจักรพล ก็พาตนทั้งสองไปพบพระปิยะวัฒน์และเจ้าอาวาส เพื่อบอกกล่าวเรื่องขอบวช และให้ตนถ่ายรูปที่ถือบัญชีเงินฝากและเอาไปลงเฟซบุ๊กขอรับบริจาคดังกล่าว ซึ่งถ้าตนรู้ว่า นายจักรพล จะไปเอาเรี่ยไรก็คงไม่บวชด้วยและเมื่อเป็นเรื่องขึ้น ก็ทำให้แม่ของตนที่เป็นญาติผู้ใหญ่ของ นายจักรพล เสียใจต้องการให้ นายจักรพลออกมาชี้แจงสิ่งที่ได้ทำลงไปด้วย ซึ่งตนพยายามโทรศัพท์ติดต่อก็ไม่ยอมรับสาย เมื่อทักพูดคุยไปทางเฟซบุ๊กมีการอ่าน แต่ก็ไม่ยอมตอบกลับมา จึงพร้อมกันมาแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน