รวบหนุ่มลักเก๋ง แถมหิ้วเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดไปด้วย สุดท้ายไม่รอด ตร.ตามจับคาลานจอดรถวัด อ้างดื้อๆ เห็นกุญแจรถแขวนอยู่ เลยขอไปขับเล่น พบคดีติดตัวอื้อ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 พ.ค.64 พล.ต.ต.อัศวยุทธ นุชพุ่ม ผบก.ประจำ บชน. รรท.ผบก.น.2 พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ รอง ผบก.น.2 ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมด้วย พ.ต.ท.อดิเรก ทองแกมแก้ว รอง ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.เข็มกล้า มั่นพลับ พ.ต.ต.วุฒิชัย บุญยู้ สว.สส.สน.ดอนเมือง ร.ต.อ.ภาคิน ดอกไม้ ร.ต.อ.สมโชค คงตำหนิ รอง สว.สส.สน.ดอนเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง

ร่วมกันจับกุมตัว นายชัยณรงค์ หรือ เอ็ม อายุ 38 ปี พร้อมของกลางรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน 3กง 6948 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของผู้เสียหาย โดยจับกุมได้บริเวณลานจอดรถวัดเกาะพญาเจ๋ง ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 8 พ.ค. เวลาประมาณ 10.50 น. ผู้เสียหายเดินทางแจ้งความร้องทุกข์หลังถูกคนร้ายก่อเหตุเข้าไปลักทรัพย์ที่บ้านในเขตดอนเมือง โดยมีทรัพย์สินที่หายไปโน๊ตบุ๊ค จำนวน 1 เครื่อง ฮาร์ดดิสเก็บข้อมูลกล้องวงจรปิด จำนวน 1 ตัว จอมอนิเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน 3กง 6948 กรุงเทพมหานคร ที่จอดไว้ที่หน้าบ้าน หายไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง สืบสวนโดยตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิด ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด ตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ ที่เป็นเส้นทางลัด ซอยย่อยต่างๆ ทำให้สามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ ทราบว่าผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อเหตุครั้งนี้คือ นายชัยณรงค์ อายุ 38 ปี ซึ่งเคยมาอาศัยญาติพักเป็นครั้งคราว

ต่อมาวันนี้ 9 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุขับรถยนต์คันที่ถูกลักทรัพย์หลบหนี กระทั่งมาพบรถยนต์คันดังกล่าวขับมาในบริเวณวัดเกาะพญาเจ๋ง ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง จึงนำกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งเวลา 18.00 น. พบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน 3กง 6948 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นของผู้เสียหาย

โดยมีนายนายชัยณรงค์ ขับเข้ามาจอดในลานจอดของวัด เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวก่อนสอบถามเรื่องรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งนายชัยณรงค์ ยอมรับว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถที่ตนก่อเหตุมาจากพื้นที่ ดอนเมืองเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมตรวจยึดรถยนต์ มาสอบสวนต่อที่สน.ดอนเมือง

นายชัยณรงค์ให้รับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง เพราะเคยอาศัยอยู่กับญาติที่อาคารพาณิชย์ดังกล่าว เพราะก่อนหน้านี้เปิดเป็นห้องเช่า ซึ่งวันเกิดเหตุบังเอิญเดินผ่านมาและเห็นประตูรั้วเปิดอยู่จึงเดินสำรวจโดยรอบ ก่อนจะเห็นกุญเเจรถแขวนอยู่จึงนำมาเปิดรถ จังหวะนั้นสังเกตเห็นกล้องวงจรปิด เกรงว่าจะจับภาพตัวเองไว้ได้ จึงนำเซิร์ฟเวอร์ขึ้นรถขับออกมาทันที พร้อมอ้างว่าไม่มีเจตนาจะขโมย ตั้งใจแค่นำไปขับเล่นเท่านั้น โดยก่อเหตุเป็นครั้งแรก แต่เมื่อถามถึงคดีลักษณะเดียวกันเมื่อปี 2559 นายชัยณรงค์ก็ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุเช่นกัน และต้องโทษจำคุกมาแล้ว 4 ปี

ด้านผู้เสียหายเปิดเผยว่า บริษัทตัวเองมาเช่าที่อาคารพาณิชย์ได้ 1 ปี ซึ่งรถยนต์ที่ถูกขโมยไปเป็นรถที่ใช้ส่วนกลางของบริษัท จึงนำกุญเเจมาแขวนในจุดที่สามารถหยิบใช้ได้ง่าย ภายหลังมาพบว่ารถหายไปก็จะไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบริษัท แต่ตัวเซิร์ฟเวอร์กลับหายไป จึงไปขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงจนพบภาพขณะคนร้ายขับออกไปนำส่งให้ตำรวจติดตามตัว

จากการตรวจสอบประวัตินายชัยณรงค์ เคยถูกจับในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนฯ (รถยนต์) พื้นที่ สภ.ปากเกร็ด ปี2556 ปี 2557 ระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดปทุมธานี ถูกเจ้าหน้าที่เรือนจำจับกุมได้ขณะพยายามนำโทรศัพท์มือถือที่เพื่อนเอามาให้เข้าไปในเรือนจำ ซึ่งเพื่อนก็ถูกตามจับกุมไปด้วย เมื่อพ้นโทษปี2559 กลับมาก่อเหตุและถูกจับกุมข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน (รถยนต์) พื้นที่ สน.ดอนเมือง และพ้นโทษออกมาประมาณปลายปี 63 ก่อนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกจนถูกตามจับกุมได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน