เจ้าหน้าที่ตำรวจล่อซื้อยาบ้า ก่อนบุกรวบหนุ่ม พร้อมของกลางยาบ้าและยาไอซ์ สารภาพโควิดระบาด คนจ้างงานน้องลง เงินไม่พอใช้ ต้องหันมาค้ายาเสพติด
เมื่อเวล 22.00 น. วันที่ 21 พ.ค. 64 นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย นายจตุนันท์ จอมทัน ปลัดอำเภอกระทุ่มแบน,นายสมยศ วงษ์พันธ์ ปลัดอำเภอกระทุ่มแบน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอ เจ้าหน้าที่ อส. และ ชุดเฉพาะกิจศรทอง (อ.กระทุ่มแบน) ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้า และ ยาไอซ์) ผู้ต้องหา 1 คน คือ นายอุทัย อายุ 52 ปี อาชีพช่างทาสี พร้อมของกลางเป็นยาบ้า 2,128 เม็ด, ยาไอซ์น้ำหนักรวม 124.31 กรัม เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง เงินสด 4,000 บาท ซองพลาสติกใส 2 แพ็ค และถังพลาสติกบรรจุสีที่ใช้เป็นภาชนะสำหรับซุกซ่อนยาเสพติดอีก 1 ถัง
นายบรรพต นายอำเภอกระทุ่มแบน กล่าวว่า ภายใต้การอำนวยการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โดยเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 นายอำเภอกระทุ่มแบนได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอกระทุ่มแบน สนธิกำลังร่วมกับ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ต.สวนหลวง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอ เจ้าหน้าที่ อส. และ ชุดเฉพาะกิจศรทอง (อ.กระทุ่มแบน) เข้าตรวจสอบเหตุวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาเสพติดในหมู่บ้านตามที่ได้รับการร้องเรียน
เมื่อเข้าไปตรวจสอบแล้วพบผู้กระทำผิดฐานเสพยาเสพติด 1 ราย คือ นายเก่ง นามสมมติ จึงได้ควบคุมมาสอบสวนเพื่อขยายผลถึงผู้ค้ายาเสพติด โดยนายเก่งก็ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าที่นำมาเสพนั้นตนได้ซื้อมาจากนายอุทัย ที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลคลองมะเดื่อ ดังนั้นจึงได้มีการวางแผนล่อซื้อจับกุม และนัดรับยาเสพติด (ยาไอซ์) ที่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ต.คลองมะเดื่อ ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้ต้องหา ทั้งนี้เมื่อพบผู้ต้องหายืนคอยอยู่ตามเวลาที่นัดกันนั้น ทางปลัดอำเภอพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้แสดงตัวจับกุม
จากนั้นได้ให้ผู้ต้องหานำเข้าไปตรวจค้นภายในบ้านพัก ก็พบของกลางเป็นยาบ้าเม็ดสีส้มรวมทั้งหมด 2,128 เม็ด และยาไอซ์อีกรวม 124.31 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในถังพลาสติกที่ใช้บรรจุสีทาบ้าน และตามจุดต่างๆ ภายบ้านพัก พร้อมอุปกรณ์เป็นเครื่องชั่งดิจิตอลอีก 1 เครื่อง จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา และของกลางทั้งหมดมาทำบันทึกการจับกุม ก่อนที่จะส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย
จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ครอบครองยาเสพติดทั้งหมดจริง โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายให้แก่วัยรุ่นและกลุ่มคนทำงานทั่วไป ส่วนเหตุที่ต้องมาลักลอบจำหน่ายยาเสพติดก็เพราะพิษของโควิดทำให้งานน้อยลง รายได้จึงไม่พอกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน