เจ้าหน้าที่ สกัดจับรถตู้ 2 คัน ระหว่างลำเลียงคน พบชาวเมียนมารวม 42 ราย ผู้นำพารับสารภาพสิ้น เคยพาไปถึงกรุงเทพฯ มาแล้ว 1 ครั้ง
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2564 ที่สภ.แม่จัน จ.เชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย พ.ต.อ.มานพ เสนากุล รองผบก.ภ.จว.เชียงราย นำเจ้าหน้าที่ตำรวจกอ.รมน. ฝ่ายปกครอง และทหาร แถลงข่าวการจับกุมผู้นำพาและแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 42 คน ที่บ้านหลังหนึ่ง ในม.1 ต.สันทราย อ.แม่จัน จ.เชียงราย
นายประจญ กล่าวว่า โดยการจับกุมมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบมีขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อจะนำไปส่งที่ภาคกลาง จึงได้ติดตามพฤติกรรมกลุ่ทขบวนการมาโดยตลอด จนกระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถยนต์ตู้ 2 คัน เข้ามาจอดที่บ้านของนายปรีชา ปฐมกุล อายุ 56 ปี
ต่อมาได้มีรถกระบะ โตโยต้า สีขาว ของนายปรีชา ขับนำรถตู้ทั้ง 2 คัน ออกจากบ้านหลังดังกล่าว ได้ประมาณ 3 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสกัดจับ จากการตรวจสอบภายในรถยนต์ตู้พบแรงงานชาวเมียนมาอยู่ภายในอยู่คันละ 21 คน รวม 42 คน เป็นชาย 16 คน หญิง 26 คน
คนขับรถคันหน้าคือนายหล้า อุ่นคำ อายุ 47 ปี ส่วนคนขับรถตู้คันที่ 2 คือนายวิชัย ลงทิพย์ อายุ 49 ปี จึงได้คุมตัวทั้งหมดไปสอบสวนที่สภ.แม่จัน เบื้องต้นคนขับสารภาพว่าเป็นเพียงคนรับจ้างโดยได้รับค่าจ้างให้ขับไปส่งที่จ.พะเยา
นายประจญ กล่าวต่อว่า การจับกุมในครั้งนี้จะมีการขยายผลและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในกฎหมายทุกฉบับ ทั้งเรื่องการหลบหนีเข้าเมือง การฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ การนำพาคนหลบหนีเข้าเมือง ส่วนเรื่องการค้ามนุษย์ พม. จะมาดูในเรื่องนี้ด้วย
ด้านพ.ต.อ.มานพ เสนากูล กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่าคนกลุ่มนี้ได้ลักลอบเข้าสู่ประเทศไทยทางช่องทางที่ผิดกฎหมายและไปพักที่บ้านน้ำจำ ต.โป่งผา อ.แม่สาย จากนั้นได้ย้ายไปพักต่อที่บ้าน ต.สันทราย ก่อนจะไปพักที่จ.พะเยา แล้วจะมีการขนกันเป็นทอดๆ ไปสู่ภาคกลางต่อไป
หนึ่งในชาวต่างด้าว เปิดเผยว่า ได้เดินข้ามลำน้ำสายที่มีความลึกประมาณอก ก่อนจะเดินเท้าอีกประมาณ 30 นาที จึงมีรถยนต์ตู้สภาพเก่ามารับไปส่งที่บ้านน้ำจำ ก่อนจะมีรถมารับแล้วมาพักต่อที่อ.แม่จัน และถูกจับกุมในที่สุด โดยมีชายเมียนมาคนหนึ่งในกลุ่มเป็นคนนำพาทั้งหมด ซึ่งเคยพาชาวเมียนลุ่มหนึ่งไปส่งที่กรุงเทพฯ สำเร็จมาแล้ว 1 ครั้ง