เกษตรกรมือใหม่เตือน อย่าหลงเชื่อซื้อขายหมูออนไลน์ หลังถูกหลอกขายพันธุ์หมูติดเชื้อ สูญเงินเก็บนับแสนบาท ต้องกำจัดทิ้งแบบยกคอก
จากกรณีที่ นายอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมด้วย ปศุสัตว์อำเภอสหัสขันธ์ นำเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์ เข้าทำลายหมู วัย 2 เดือน จำนวน 38 ตัว ติดเชื้อไวรัสPRRS หรือเพิร์ส ด้วยการฉีดยา ทำการฆ่าเชื้อและฝังกลบ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในพื้นที่ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 24 พ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เลี้ยงหมูคือ ว่าที่ร้อยตรีหญิงกนกวรรณ ภูขยัน เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู และนางสาวศุภลักษณ์ แซ่เล้า เจ้าของพันธุ์สุกร จากการสอบถามทราบว่า เป็นพันธุ์ลูกหมูที่มีขายในโลกออนไลน์ มีราคาถูกกว่าท้องตลาด ทั่วไปโดยรอบนี้ลงทุนไปแสนกว่าบาท แยกเป็นพันธุ์ลูกหมู 84,000 บาท ค่าหัวอาหาร และค่าดูแลรักษาอื่น ๆ อย่างไรก็ตามได้แจ้งรายละเอียดข้อมูลที่มาลูกหมูที่ติดเชื้อให้กับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ไปแล้ว เพื่อไม่ให้เกษตรกรคนอื่น ๆ ถูกหลอกเสียเงินทองแบบที่เกิดขึ้น
ว่าที่ร้อยตรีหญิงกนกวรรณ กล่าวว่า เลี้ยงหมูเพื่อเป็นรายได้เสริม ได้ลงทุนโรงเรือนหมูเอาไว้ จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูล แหล่งหมูจากโซเชียล และไปแจ้งทางสำนักงานปศุสัตว์อำเภอสหัสขันธ์ ว่าจะเลี้ยง ก็ได้คำแนะนำมากพอสมควร จนกระทั่งหมู 50 ตัว มาส่งแต่เช้าตรู่จัดการเอาเข้าคอกในโรงเรือนที่ทำไว้ จ่ายเงินไป 84,000 บาท และสั่งซื้อหัวอาหารไว้อีก ทั้งหมดก็ร่วมแสนบาท เป็นเงินเก็บออม เลี้ยงไปได้เพียง 5 วัน ลูกหมูก็เริ่มป่วย และตาย วันละตัว ๆ
โดยหมูจะมีอาการไอ ตามตัวมีจุดเขียวช้ำ จ้ำแดง มีแผลที่หัวนม มีอาการชักเกร็ง ก่อนจะตาย ซึ่งแรก ๆ ก็ฝังกลบ เพราะรักษาไม่หาย เมื่อติดต่อไปถึงแม่ค้าที่เอาหมูมาขายให้ ก็บอกให้เอายาตัวนั้นตัวนี้มาฉีด ก็ทำตามแต่ก็ยังตายอยู่ บอกว่ารับประกัน 7 วัน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนล่วงมาถึงวันที่ 20 จึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อ.สหัสขันธ์ และนำเลือดไปตรวจก่อนจะพบว่าเป็นหมูติดเชื้อ PRRS หรือเพิร์ส ในหมูระยะฝักตัว ก็ทำใจอยู่พักใหญ่ ๆ จึงตัดสินใจทำลายหมูเพื่อไม่ให้แพร่เชื้อและให้จบปัญหาไปเลย
ว่าที่ร้อยตรีหญิงกนกวรรณ กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าตอนนั้นอยากเลี้ยงมาก และเมื่อมาดูรายละเอียด ดูแหล่งที่มาของหมู ซึ่งที่ซื้อมา มาจากพื้นที่ติดเชื้อรุนแรง และมีการห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ แต่ยังลักลอบมาขายให้ทางนี้ได้ ถือว่าอันตรายอย่างมาก เมื่อทักไปสอบถามการประกัน และใบเคลื่อนย้ายสัตว์ ก็ไม่มีให้ ทางโน้นก็ยอมรับว่าลักลอบขนย้ายมา คือตอนนี้เงินลงทุนไม่ได้คืน เงินชดเชยไม่ได้รับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้แจ้งไว้ก่อนแล้ว ก็เข้าใจดี เหมือนถูกหลอกซื้อหมูติดเชื้อมาขายให้
เสียใจมากซึ่งไม่น่าทำกันได้ และเมื่อข่าวออกไปมีเกษตรกรคนอื่น ๆ มาให้กำลังใจ บางคนหลังไมค์มาบอกว่าทำเป็นขบวนการกว้านซื้อหมูติดเชื้อที่โล๊ะจากฟาร์มใหญ่มาแร่ขายมีจำนวนมากที่หลงเชื่อ และกำลังได้รับผลกระทบ เหมือนเช่นตน จึงอยากฝากเตือนเกษตรกรทานอื่น ๆ อย่าหลงเชื่อกลุ่มหลอกลวงนี้ นอกจากจะเสียเงินโดยสูญเปล่าแล้ว ยังจะต้องเสี่ยงเป็นพาหนะนำเชื้อโรคไปกระจายในพื้นที่ตัวเองด้วย ยอมรับว่าเสียใจมาก เป็นบทเรียนราคาแพง และคงไม่คิดจะเลี้ยงหมูต่ออีกแล้ว