มาทั้งคลินิก! ร่วมปลงศพสาวศัลยกรรมดับ ญาติตั้งแถวรอรับ ช็อกเจอประกาศลั่นไม่เผา จะดำเนินคดีถึงที่สุด รีบกลับทันที เผยไม่มีความชัดเจน ให้ทนายจัดการ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 มิ.ย.64 ที่ศาลาบำเพ็ญกุศล วัดบ้านอ่าง ต.อ่างคีรี อ.มะขาม จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานบำเพ็ญกุศลศพ น.ส.ศิริกุล หรือ น้องโบ๊ต อายุ 34 ปี แม่ค้าออนไลน์ที่เกิดอาการช็อกคาเตียง ในคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ที่ กทม. ขณะมาทำศัลยนกรรมหน้าท้อง ก่อนถูกนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลนาน 14 วัน และเสียชีวิตลงในวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยผลชันสูตรระบุเสียชีวิตเนื่องจากสมองขาดอากาศหายใจ

โดยในวันนี้ซึ่งตามกำหนดเดิม จะเป็นวันที่ประกอบพิธีฌาปนกิจหรือปลงศพตามที่ญาติได้กำหนดไว้ แต่มีการเปลี่ยนแปลงหมายกำหนดการจากเดิม ภายหลังจากทางครอบครัวและญาติได้ปรึกษาหารือกัน ได้มีข้อสรุปที่จะทำพิธีเผาหลอก โดยนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป ประกอบพิธีรับกองผ้าป่าและรับถวายผ้าบังสุกุล โดยไม่ได้ประกอบพิธีสวดมาติกา เหมือนกับพิธีฌาปนกิจศพตามปกติ

นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมดอกไม้สด ถวายพระสงฆ์ และแจกจ่ายให้กับแขกที่มาร่วมงาน ขึ้นวางอโหสิกรรมหน้าหีบศพ แทนการวางดอกไม้จันท์ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะลูกสาววัย 10 ปี ของผู้เสียชีวิต ที่ร้องไห้สะอื้นตลอดเวลา แม้จะมีครอบครัวและญาติช่วยกันปลอบประโลม

ต่อมา ได้มีเจ้าของคลินิก พร้อมวิสัญญีแพทย์ และเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นคนที่ฉีดยาแก้ปวดให้กับ น.ส.ศิริกุล ก่อนที่จะเกิดอาการช็อก ได้เดินทางร่วมงานฌาปนกิจ พร้อมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังจากที่ได้นั่งรออยู่ในรถตู้อยู่นานจนพิธีการเสร็จสิ้น แต่ไม่พบว่ามีแพทย์ที่ทำการผ่าตัดเดินทางมาในครั้งนี้ด้วย

แต่ในขณะที่เจ้าของคลินิก พร้อมวิสัญญีแพทย์ และเจ้าหน้าที่คลินิก กำลังจะเดินเข้าไปเคารพศพ ได้เผชิญหน้ากับญาติผู้เสียชีวิตที่อยู่ในการร่ำไห้เสียใจที่ตั้งแถวรอรับ ทันทีที่ถึงบริเวณหน้าหีบศพ ได้มีน้องสาวแท้ๆ ต่างพ่อของผู้เสียชีวิต ได้ส่งเสียงตะโกนถามเจ้าของคลินิกว่า “สะใจหรือยัง” ทำให้ทั้ง 3 คน ได้เพียงยกมือไหว้ศพ และรีบหันหลังเดินกลับออกจากศาลาทันที โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่พาตัวออกมา

จากนั้นทางครอบครัวและญาติ ตลอดจนเพื่อนสนิท ได้ร่วมกันส่งร่างของผู้เสียชีวิต ย้ายเข้าเก็บรักษาในโลงเย็นภายในศาลา ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ดังไปทั่วศาลาบำเพ็ญกุศล ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด ขณะที่ น.ส.ศลิษา อายุ 41 ปี น้าสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เดิมทีครอบครัวและญาติ ไม่ได้ตั้งใจที่จะให้มีการเผาหลอก แต่นับหลังจากตั้งแต่วันที่ทางคลินิกได้เดินทางมาร่วมงานศพครั้งแรก ในการจะประสงค์จะนำเช็คมาช่วยงานศพ 7 แสนบาท แต่ทางครอบครัวเห็นว่า ยังไม่ได้มีการเจรจาอย่างชัดเจนและเป็นทางการจึงยังไม่กล้ารับไว้

แต่ทั้งนี้ทางคลินิกเอง ก็ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ก็เลยตกลงกันว่าจะเก็บศพไว้ก่อน ทั้งนี้ยังเผื่อไว้ในเรื่องผลการชันสูตรรอบแรกยังไม่กระจ่างชัดเจน ก็อาจจะมีการส่งชันสูตรซ้ำอีกครั้ง เผื่อหลักฐานบางส่วนอาจตกหล่นขาดหายไป ส่วนในเรื่องความคืบหน้าของคดี ที่มีการแจ้งความไว้ที่ สน.เตาปูน ในขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากพนักงานสอบสวน หลังจากเสร็จสิ้นงานศพขั้นตอนแรก จะให้ทนายเป็นผู้ดำเนินการไกล่เกลี่ย และจัดการดูแลขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายทุกอย่างแทน

ส่วนลูกสาวของผู้เสียชีวิต ตอนนี้นับว่ามีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่พอสมควร โดยจะไม่ค่อยเห็นความร่าเริง สดใจเหมือนก่อนที่น้องจะเสียแม่ไป โดยหลังจากนี้ ครอบครัวและญาติ จะคอยดูแลช่วยเหลือไปตามกำลัง เนื่องจากช่วงที่ น.ส.ศิริกุล ยังไม่เสียชีวิต จะเป็นคอยดูแลลูกทุกอย่าง และเป็นเสาหลักของครอบครัว ที่ต้องดูแลแม่ และยาย อีกด้วย ส่วนพ่อลูกสาวต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด อาจจะไม่ดูแลได้ดีเท่าที่ควร

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน