กรมทะเล เผยผลชันสูตรโลมาเกยตื้นตาย 8 ตัวชายหาดพังงา ติดเชื้อในกระแสเลือดภายในฝูงตามธรรมชาติ ไม่เกี่ยวเครื่องมือประมงทุกชนิด

กรณีพบโลมากระโดด 8 ตัว เกยตื้นตาย บริเวณเกาะทุ่งนางดำ อ. คุระบุรี จ. พังงา และอีก 5 ตัว ว่ายติดอยู่บริเวณน้ำตื้น ในวานนี้(25มิ.ย.) เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายและบาดแผลจากเครื่องมือประมง ผลชันสูตรชี้เกิดการติดเชื้อมาหลายวันจนร่างกายอ่อนแอ ประกอบกับคลื่นแรงทำให้เกยตื้นตาย นั้น

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่า วานนี้ (25มิ.ย.) ตนได้รับรายงานจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) แล้ว พร้อมสั่งเร่งตรวจสอบสาเหตุการตายและช่วยเหลือโลมาที่ยังมีชีวิตอยู่ทันที

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)

สำหรับเรื่องนี้ ตนถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจาก ไม่เคยพบเห็นการเกยตื้นตายพร้อมกันในจำนวนมากขนาดนี้ อีกทั้งโลมากระโดดยังจัดอยู่ในสัตว์คุ้มครองตามบัญชีไซเตส หมายเลข 2 ซึ่งต้องอนุรักษ์ดูแลมิให้ลดจำนวนลงและควบคุมการส่งออก

นอกจากนี้ ยังอยู่ในบัญชีสัตว์คุ้มครองตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และอยู่ระหว่างจัดทำบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ซึ่งหากพบการตายผิดธรรมชาติ จะต้องเร่งหาสาเหตุและแนวทางการป้องกันแก้ไขมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ซึ่งตนได้สั่งการให้จัดทีมลาดตระเวนเฉพาะกิจ เพื่อสำรวจในพื้นที่โดยรอบ ซึ่งอาจจะมีโลมาฝูงอื่นบริเวณใกล้เคียง

สุดท้าย ตนอยากฝากพี่น้องประชาชนและชาวประมงทุกคนว่า“การทำกิจกรรมใดๆ ในทะเล จะต้องคำนึงถึงอันตรายที่อาจเกิดกับโลมาและสัตว์ทะเลอื่นๆ การทำประมงในพื้นที่ที่พบสัตว์ทะเลหายาก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เครื่องมือประมงต้องไม่ส่งผลกระทบ โดยเฉพาะต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งหามาตรการคุมเข้มทุกกิจกรรม เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรและสร้างความเชื่อมั่นในระดับสากล ซึ่งตนจะได้กำชับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วนต่อไป

ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยผลการชันสูตรการตายของโลมาทั้ง 8 ตัว ว่า จากการตรวจสอบของทีมสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ ที่เพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อเวลา17.00น.ในวันนี้ว่า สภาพโลมาที่เสียชีวิตไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือจากคราบน้ำมัน และไม่มีบาดแผลบนตัวและในช่องปาก เบื้องต้นสรุปได้ว่าไม่ได้เกิดจากเครื่องมือประมงหรือการล่าแต่อย่างใด ตนได้มอบหมายให้นางสุมนา ขจรวัฒนากุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กำกับทีมสัตวแพทย์ชันสูตรอย่างละเอียด โดยใช้เวลากว่า 10 ชั่วโมง

นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

พบว่า โลมากระโดดทั้ง 8 ตัว เป็นเพศผู้ทั้งหมด ทุกตัวอยู่ในเกณฑ์ผอม ผลการชันสูตรซากพบว่าทุกตัวมีการติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงของอวัยวะภายในหลายแห่ง พบซิสต์ของพยาธิในชั้นไขมันและบริเวณระบบสืบพันธุ์ สันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการป่วยด้วยโรคที่ติดเชื้อภายในฝูงตามธรรมชาติเป็นเวลานานหลายวัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอไม่สามารถรวมฝูงกับตัวอื่นได้ ประกอบกับสภาพคลื่นลมแรงทำให้เกิดการเกยตื้นดังกล่าว

สำหรับโลมากระโดดอีก 5 ตัว ที่ยังมีชีวิต ทีมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลได้ช่วยกันนำออกไปยังบริเวณน้ำลึกอย่างปลอดภัยแล้ว ทั้งนี้ ตนได้รับข้อสั่งการจากนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ประสานจังหวัด กรมประมง ทหารเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแผนในการลาดตะเวนและแนวทางการป้องกันการใช้เครื่องมือประมงที่อาจส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล ต่อไป

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า โลมากระโดดสามารถพบได้ทั้งในฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน พฤติกรรมโลมากระโดด ว่าเป็นสัตว์สังคมอยู่รวมกันเป็นฝูง ส่วนมากไม่ค่อยเข้ามาในพื้นที่อ่าว และมักออกหากินเวลากลางคืน ภัยคุกคามหลักของโลมากระโดด คือ การล่าตามธรรมชาติ และมักมีปรสิตที่เกาะบริเวณผิวหนังและปรสิตที่เข้าไปในตัว สำหรับกิจกรรมมนุษย์ที่ส่งผลกระทบ ส่วนมากมาจากเครื่องมือประมงและคราบน้ำมันในทะเล ซึ่งเป็นสิ่งที่ควบคุมและจัดการได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งในด้านกฎหมาย นโยบาย และการมีส่วนร่วมของประชาชนและชาวประมงด้วยเช่นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน