ปะทะอีกรอบ ฉก.ปัตตานี ล้อมป่าสาคู ตามจับคนร้ายหนีจากปอเนาะที่สายบุรี

จากกรณีเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ ม.3 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำให้เกิดการยิงปะทะกันขึ้นก่อนที่คนร้ายหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักของเจ้าของโรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่ง ทำให้มีการปิดล้อมก่อนจะเจรจาให้คนร้ายออกมามอบตัว

แต่คนร้ายได้ตอบโต้ ต่อสู้ด้วยการใช้อาวุธยิงและขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ก่อนที่เหตุปะทะจะยาวนานถึง 7 ชั่วโมง ส่งผลให้คนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 2 ราย คือ นายคูไมดี รีจิ อายุ 33 ปี และนายอัมรี มะมิง อายุ 26 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา 1 หมายคดีลอบวางระเบิด กรุงเทพฯ เมื่อปี’62 โดยเหตุปะทะครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.ค.เมื่อวานนี้

ล่าสุด เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 6 ก.ค. ชุดปฏิบัติการร่วมจำนวน 12 นายที่ยังคงออกติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่เหลือและหลบหนีไป เกิดปะทะกับกลุ่มคนร้ายซึ่งมีประมาณ 3 คนพร้อมอาวุธครบมือ บริเวณป่าต้นสาคู พื้นที่ ม.5 ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จึงได้วิทยุประสานกำลังเสริมและรายงานให้ พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.จ.ภ.จ.ปัตตานี ทราบพร้อมเดินทางไปอำนวนการในที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นป่าต้นสาคูมีสภาพรกทึบอยู่กลางทุ่งนาร้าง ห่างจากถนนประมาณ 300 เมตร พล.ต.คมกฤช สั่งการให้กองกำลังในพื้นที่ระดมเข้ามายังจุดเกิดเหตุพร้อมกระจายกำลังปิดล้อมในรัศมี 300 เมตร เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายน่าจะกบดานอยู่ในป่าดังกล่าว จากนั้นจึงได้มีการประชุมวางแผนในการโอบล้อมไม่ให้คนร้ายใช้พื้นที่ป่าหลบหนี พร้อมประสานไปยังผู้นำศาสนาและผู้นำท้องถิ่นเพื่อทำการเจรจาให้คนร้ายมอบตัว

พล.ต.คมกฤช เปิดเผยว่า คนร้ายกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวกันที่ถูกวิสามัญ 2 ศพเมื่อวานนี้ และเป็นกลุ่มที่เชื่อมโยงกับ นายยาการียา บาโง แกนนำคนสำคัญมีหมายจับ 19 หมายที่รับผิดชอบในการก่อเหตุใน จ.ปัตตานี ขณะนี้ทางหน่วยกำลังปิดล้อมพื้นที่และสกัดกั้นเส้นทางหลบหนีไม่ว่าจะเป็นเส้นทางเข้าออกหรือพื้นที่ป่าโดยรอบ รวมไปถึงหมู่บ้านข้างเคียงก็มีการประสานไปยัง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้เฝ้าดูพฤติกรรมคนในหมู่บ้านเกรงว่าจะมีการส่งเสบียงหรือเคลื่อนไหวออกมาช่วยเหลือคนร้ายกลุ่มนี้

ตนขอยืนยันว่าการปฏิบัติทุกครั้งเราจะให้การเจรจาก่อนเป็นหลัก ไม่ต้องการความสูญเสียอย่างที่ผ่านมาทั้งเจ้าหน้าที่หรือฝ่ายตรงข้ามหากรู้ตัวชัดเจนว่าบุคคลที่หลบซ่อนตัวเราก็จะเชิญผู้ปกครองมาเจรจาเพราะเชื่อว่าถ้าผู้ปกครองมาทำการเจรจาตรงนี้คนร้ายซึ่งเป็นบุตรหลาน จะลดความกดดัน ก็น่าจะออกมามอบตัว

ส่วนการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวนั้น ฝ่ายปฏิบัติการณ์ทางอากาศได้นำโดรนบินตรวจสอบโดยรอบพบความเคลื่อนไหวของคนร้ายซึ่งยังคงหลบซ่อนตัวโดยใช้ต้นไม้สูงปิดบังตัวเองไว้ และคาดว่าวันนี้เราจะได้ตัวคนร้ายแน่นอน

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกาะติดสถานการณ์ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรึงกำลังปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ ป่าต้นสาคู ม.5 ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี พบว่าในพื้นที่ป่าดังกล่าวเป็นฐานปฏิบัติการณ์ของกลุ่มคนร้ายก่อความไม่สงบ ที่ใช้เป็นที่พักพิงและหลบซ่อนตัว เพราะอยู่ใจกลางป่าและห่างหมู่บ้าน

ขณะที่ชุดการข่าวความมั่นคง ระบุว่า คนร้ายกลุ่มนี้น่าจะมีบุคคลในพื้นที่และกลุ่มแนวร่วมให้การสนับสนุนในการปกปิดแหล่งพักพิงของคนร้าย ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นใคร แต่เชื่อมโยงกับกลุ่มเมื่อวานนี้แน่นอน

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังคงปฏิบัติการปิดล้อมป่าต้นสาคูต่อเนื่อง โดยรอบ ทั้ง 4 ทิศ หลังจากพบความเคลื่อนไหวและการยิงตอบโต้ออกมาเป็นระยะ โดยพล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี และหัวหน้าหน่วยในพื้นที่ยังคงประชุม เพื่อวางแผนเชิงรุกในการปฏิบัติเข้าประชิดตัวคนร้าย อย่างรัดกุม

แต่เนื่องจากพื้นที่เป็นป่ารกทึก คนร้ายใช้ความชำนาญของพื้นที่พรางตัวทำให้ยากต่อการมองเห็น ทำให้ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้เครื่องมือพิเศษในการจับความร้อนหาตัวพร้อมกับนำโดรนขึ้นบินทางอากาศ แต่ก็ถูกคนร้ายยิงใส่เป็นระยะ ซึ่งขณะรายงานยังคงมีเสียงระเบิดและเสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาเวลา 13.20 น. มีเสียงระเบิดขึ้นหลายครั้งพร้อมเสียงปืน คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้อาวุธหนักต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ทำให้ภารกิจการเข้าประชิดต่อล่าถอยออกมาเป็นระยะๆ เนื่องจากคนร้ายใช้ต้นไม้ใบไม้เพื่อพรางตัว

จากการปะทะครั้งนี้เจ้าหน้าที่ทราบว่าคนร้ายน่าจะมีประมาณ 3-4 คน พร้อมอาวุธครบมือ ทำให้ พล.ต.คมกฤช ปรับแผนในการปฏิบัติอีกครั้ง และยังเน้นย้ำว่าช่วงเวลาในการปิดล้อมให้มีการเจรจาเป็นระยะ เพื่อหวังว่าคนร้ายจะออกมามอบตัว แต่ถ้าหากคนร้ายมีการยิงอาจจะยิงตอบโต้กลับ เพื่อเป็นการป้องกันตัว อย่างไรก็ตามการปฏิบัติการณ์ครั้งนี้น่าจะยืดเยื้อออกไป เพราะต้องการกันเจ้าหน้าที่ไม่ให้สูญเสียหรือบาดเจ็บอีก

พล.ต.คมกฤช กล่าวว่า มีการยิงตอบโต้กันร่วม 10 ช.ม. จนถึงขณะนี้ก็ยังมีการตอบโต้อย่างต่อเนื่อง เรานำผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชนเข้าไปใกล้ๆให้มากที่สุด เพื่อเจรจาพูดคุย โดยทางเจ้าหน้าที่ก็ใช้ความนุ่มนวลให้มากที่สุด สำหรับสถานที่จุดปะทะ ถือว่าเป็นฐานปฏิบัติการของคนร้ายหรือเป็นฐานหลักที่เมื่อก่อเหตุแล้วก็จะหลบซ่อนตัวที่นี่

หลังจากยึดฐานก็พบอุปกรณ์หลายอย่างในการดำรงชีพ สำหรับคนร้ายกลุ่มนี้คาดว่าเป็นบุคคลที่มีหมายสำคัญและเป็นแกนนำคนสำคัญจึงไม่ยอมที่จะออกมามอบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่เราก็ต้องปลอดภัยก่อนและใช้กำลังเท่าทีจำเป็น รวมทั้งหลีกเลี่ยงความรุนแรงให้มากที่สุด

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน