ตำรวจปคบ. ล่อซื้อปุ๋ยปลอม ในปทุมธานี ก่อนขยายผล จับโรงงานผลิตที่นครนายก
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 6 ก.ค. 2564 พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.๒ บก.ปคบ. พ.ต.ต.จำรูญ คำมา สว.กก.๒ บก.ปคบ. นำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่เกษตรสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 กรมวิชาการเกษตร
ล่อซื้อปุ๋ยเคมีที่ไม่มีใบอนุญาตโดยนัดส่งมอบ ที่ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง สุรชัยบริการ3 เลขที่ 18/2 หมู่ 10 ต.ลำไทร อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ขณะลำเลียงมาส่งมอบให้สายสืบจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม นายสมจริง ศรีไพโรจน์
พร้อมปุ๋ยเคมีบรรจุในกระสอบพลาสติก ขนาดบรรจุ 50 กก. จำนวน 100 กระสอบ อยู่ในรถยนต์หมายเลขทะเบียน ฒศ 2055 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์หมายเลขทะเบียน ตธ 1950 กรุงเทพมหานคร จำนวน 50 กระสอบ รวม 200 กระสอบ
จากนั้นจึงได้ขยายผลไปยังโรงงานผลิตปุ๋ยแห่งหนึ่ง บน ถ.คลองยี่สิบเก้า-โพธิ์แทน ต.โพธิ์แทน อ.องครักษ์ จ.นครนายก จากพบปุ๋ยปลอมที่อยู่ในโกดังอีกจำนวน 1,095 กระสอบ เป็นการกระทำผิดผลิตปุ๋ยปลอม มาตรา 30 ในข้อ5 กล่าวว่า ปุ๋ยต้องขึ้นทะเบียน แต่มิได้ขึ้นทะเบียนไว้ และ มาตรา 71 ผู้ใดผลิตเพื่อการค้าหรือนำเข้าปุ๋ยเคมีโดยผ่าฝืนมาตรา 30 (5) ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท
นายนพพร ศิริพานิช นักวิทยาชำนาญการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรปทุมธานี กล่าว่าได้รับการร้องเรียนจากการเกษตรจำนวนมากในพื้นที่ปทุมธานีว่ามีการลักลอบจำหน่ายปุ๋ยเคมีปลอม ไม่มียี่ห้อและใบอนุญาต เป็นการกลับกระสอบถุงปุ๋ยและบรรจุเพื่อนำมาขายให้เกษตรกรในพื้นที่
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรปทุมธานี จึงได้ประสานงานไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (กก.๒ บก.ปคบ.) ให้เข้ามาตรวจสอบและล่อซื้อจนทำการขยายผลมาสู่โรงงานผลิต เบื้องตนตรวจสอบพบปุ๋ยเคมีที่ใบอนุญาตและไม่มีบัตรขออนุญาตตามที่เกษตรได้ร้องเรียนมาเบื้องตนมีจำนวนกว่า 1,000 กระสอบ
ด้าน พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.2 บก.ปคบ กล่าวว่า ได้รับการประสานงานมาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรปทุมธานี ว่ามีการลักลอบจำหน่ายปุ๋ยเคมีโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้รายงานไปยังผู้บังคับบัญชาได้ทราบและมอบมายให้ พ.ต.ต.จำรูญ คำมา สว.กก.๒ บก.ปคบ.ทำการสืบสวนจนทราบว่าได้มีการลักลอบจำหน่ายปุ๋ยเคมีโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง
จึงทำการล่อซื้อและส่งของบริเวณสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง สุรชัยบริการ3 จากนั้นได้ขยายผลไปยังโรงงานผลิตปุ๋ยเคมี และทำการอายัดปุ๋ยปลอมทั้งหมดเพื่อทำการตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
