หลานชาย วัย 20 ปี ขอเงินย่า 7 พัน หวังจะนำไปรักษา อาการแขนที่ลีบตั้งแต่เด็ก เมื่อผิดหวังกลับเครียดหนัก ซื้อน้ำมันมาจุดไฟ เผาบ้านวอด 2 หลัง
เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2564 พ.ต.ท.นพรัตน์ หลวงสนาม สว.(สอบสวน)สภ.เมืองกาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุมีผู้จุดไฟเผาบ้านตัวเอง บ้านเลขที่ 64 บ้านเตาไห ม.4 ต.หลุบ อ.เมือง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ สุริยะ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยจ.กาฬสินธุ์
ที่เกิดเหตุอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนอนุบาลกาฬสินธุ์ สาขาบ้านเตาไห เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็วและลามไปยังบ้านข้างเคียงอีก 1 หลัง เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังและรถดับเพลิงฉีดน้ำสกัดไม่ให้ลุกลามต่อไปโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการสอบสวนทราบว่าหลานชายของเจ้าของบ้าน อายุ 20 ปี เป็นคนจุดไฟเผา และหลังก่อเหตุได้ขี่รถจยย. หลบหนีไป โดยตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ ตามไปจับกุมตัวไว้ได้บริเวณถนนหน้าวัดดอนนาแก ต.หลุบ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
จากการสอบสวนนางสมร ชนะศึก อายุ 62 ปี เจ้าของบ้าน ให้การว่า หลานชายได้อาศัยอยู่กับตนที่บ้านหลังนี้ตั้งแต่ยังเด็ก เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 64 หลานชาย ได้มาขอเงิน 7,000 บาท บอกว่าจะเอาไปรักษามือและแขนที่ลีบตั้งแต่เด็ก หยิบจับไม่สะดวก แต่ตนไม่มีให้
จึงขู่ว่าจะจุดไฟเผาบ้าน ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจ คิดว่าหลานแค่ขู่เพราความโมโห กระทั่งวันนี้หลานได้มาขอเงินอีกครั้ง ซึ่งตนก็บอกว่าไม่มี ก่อนที่หลานจะไปซื้อน้ำมันมาและอาศัยจังหวะตนเผลอนั่งอยู่หน้าบ้านแอบเดินไปจุดไฟเผาบ้านจนวอดเสียหายทั้ง 2 หลัง
จากการสอบสวนผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขอเงินย่าจำนวน 7,000 บาท อยากจะนำไปตรวจรักษาแขนและมือที่ลีบ แต่ย่าไม่มีให้ ด้วยความโมโหและน้อยใจ จึงไปซื้อน้ำมันมาราดบริเวณชั้นสองของบ้านราดลงมาชั้นล่างและจุดไฟเผา แล้วขี่รถจยย. หนี เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพงส.ดำเนินคดี แจ้งข้อหา “วางเพลิงเผาทรัพย์ที่เป็นโรงเรือน” ต่อไป
