ใช้ให้เกิดประโยชน์ เจ้าอาวาสวัดบ้านอ้น จ.ร้อยเอ็ด เปิดศาลาเป็น รพ.สนาม รับผู้ป่วยโควิด 40 เตียง ย้ำจัดเป็นสัดส่วน แยกจากญาติโยม พระ-เณร

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2564 ที่วัดบ้านอ้น หมู่ 3 ต.ดงลาน อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดโรงพยาบาลสนามภายในวัดบ้านอ้น เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขนาด 40 เตียง ที่รักษาใกล้หายตามระยะเวลาที่กำหนด เข้ามาพักฟื้นก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน

โดยมีนายเอกภาพ พลซื่อ นายก อบจ.ร้อยเอ็ด นพ.ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด นายสนอง ดลประสิทธิ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด พ.ต.อ.ภูมิวิช เวชกามา รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด นายเริงวิทย์ ถนอมแสง นายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องที่-ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ รพ.ร้อยเอ็ด สาธารณสุข อสม. และประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธี

น.ส.อุไรพรณ์ ทิดจันทึก หัวหน้างานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชนและศูนย์สุขภาพชุมชนเขตเมือง โรงพยาบาลร้อยเอ็ด กล่าวว่า พระมหาอุดร ธมฺมปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดบ้านอ้น เจ้าคณะอำเภอโพนทราย จ.ร้อยเอ็ด ได้เล็งเห็นความสำคัญและการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่ผ่านมา ท่านได้พาชมรมคนมีบุญและศิษยานุศิษย์จัดทำอาหาร พร้อมนำน้ำดื่มไปมอบให้กับผู้ป่วย และแสดงธรรมสร้างสติให้แก่ผู้ป่วยที่ทำการรักษาในโรงพยาบาลสนามจังหวัดอย่างสม่ำเสมอ

น.ส.อุไรพรณ์ กล่าวต่อว่า เมื่อเร็วๆ นี้ท่านได้เป็นผู้ประสานงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการนำผู้ป่วยจากจังหวัดพื้นที่สีแดง ที่ไม่มีเตียงรักษา กลับมารักษาตัวที่จังหวัดร้อยเอ็ดแล้วหลายราย ปัจจุบันแม้ทางจังหวัดจะมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสนามที่หอประชุมจังหวัด โรงพยาบาลสนามที่มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และโรงพยาบาลสนามค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช แล้วก็ตาม แต่สถานการณ์ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสถานที่รองรับอาจไม่เพียงพอ วัดบ้านอ้นจึงเสนอตัวขอเป็นวัดนำร่องในการจัดตั้งโรงบาลสนามขนาดกลางขึ้น

พระมหาอุดร ธมฺมปญฺโญ เปิดเผยว่า การที่วัดบ้านอ้นได้ให้สถานที่ของวัด จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิดนั้น สืบเนื่องจากจำนวนโรงพยาบาลสนามที่ทางจังหวัดตั้งขึ้นนั้น ไม่น่าจะเพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยชาวร้อยเอ็ดที่เดินทางจากพื้นที่สีแดงกลับมายังภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ และเห็นว่าทางวัดมีเสนาสถาน คือ อาคารศาลาเอนกประสงค์ที่มีอยู่แล้ว ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์มากเท่าที่ควร เราเห็นว่าในคราวที่มีภัยพิบัติโรคระบาดเกิดขึ้นครั้งนี้ คิดว่าน่าจะใช้ศาลาเอนกประสงค์ที่ว่างนี้ให้เกิดประโยชน์อย่างน้อยก็เป็นการแบ่งเบาภาระช่วยกันต่างคนต่างช่วยเพื่อเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น

พระมหาอุดร ธมฺมปญฺโญ กล่าวอีกว่า ในการทำงานวันแรกที่เราบอกชาวบ้านว่า อยากให้ศาลาวัดเป็นโรงพยาบาลสนามรักษาปู้ป่วยโควิด-19 ก็มีเสียงคัดค้านบ้าง เนื่องจากชาวบ้านบางส่วนไม่เห็นด้วย กลัวโรคจะระบาดเข้าชุมชน เนื่องจากขาดความเข้าใจ เราก็ทำความเข้าใจว่ากระบวนการที่จะนำผู้ป่วยมารักษาตรงนี้ เป็นผู้ป่วยประเภทไหนต้องอาศัยจากทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โรงพยาบาลรพ.สต. ฝ่ายปกครอง ซึ่งนำโดยนายเริงวิทย์ ถนอมแสง นายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด นายอุทัยเทพ พรรคพล นายก อบต.ดงลาน นายอมร ยุระไพ นายชัย โคตะนิตย์ ส.อบต. นายประเทือง มิตรอุดม ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย ตลอดจน อสม.ร่วมประสานพูดคุย

“แต่เหนือสิ่งอื่นใดชาวบ้านมีความมั่นใจในตัวอาตมาที่เป็นผู้นำทำอยู่ตรงนี้ ถ้าคิดง่ายๆ ก็คือพาผู้ป่วยมาอยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้ใกล้ชิดกับคนทั่วไป คนที่ใกล้ชิดที่สุดคือแพทย์ พยาบาล เขายังมีจิตอาสาที่จะทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยอยู่เลย ฉะนั้นเราเพียงให้แค่สถานที่ เราก็ใช้ชีวิตกันปกติ การจัดการโรงพยาบาลสนามมีการจัดเป็นสัดเป็นส่วน ทั้งที่พัก ที่รับประทานอาหาร ห้องน้ำ ที่อาบน้ำ แยกจากญาติโยม พระเณรอย่างชัดเจน”

พระมหาอุดร ธมฺมปญฺโญ กล่าวต่อว่า เรื่องดังกล่าวอาตมาคิดว่าทุกวัดที่มีพื้นที่สามารถทำได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าต้องไปทำความเข้าใจกับชุมชนและบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดความชัดเจน ก็สามารถจะใช้เป็นโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยได้ ซึ่งชุมชนในแถบวัดของเรามีความเข้าใจเป็นอย่างดี เราช่วยกันคนละไม้ละมือไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถทำให้โรงพยาบาลสนามแห่งนี้เสร็จสิ้น พร้อมรองรับผู้ป่วยได้ทั้งสิ้น 40 เตียง แต่ถ้าหากจำเป็นอาจขยายเป็น 60 เตียงได้

พระมหาอุดร ธมฺมปญฺโญ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นอาตมาบริจาคทุนซื้ออุปกรณ์ต่างไปแล้ว 60,000 บาท พื้นปูพรมสีเขียว บรรยากาศโอ่โถง สะอาด สวยงาม และยังได้รับการสนับสนุนที่นอนจาก อบจ.ร้อยเอ็ด พัดลมจากวัดต่างๆ ตลอดจนอาหารเครื่องดื่มจากผู้มีจิตศรัทธาสนับสนุนงบประมาณต่อเนื่อง นอกจากนี้ผู้ที่เข้ามาทำการรักษา จะได้รับฟังการแสดงธรรมเทศนา และแจกหนังสือธรรมะให้ด้วย สำหรับคนร้อยเอ็ดที่ไม่มีที่รักษา ให้ติดต่อศูนย์ช่วยเหลือคนร้อยเอ็ดกลับบ้าน สายด่วน 1567 หรือ 0-4351-9427

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน