เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ร.ต.อ.ธวัชชัย ศรีใหม่ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะ 2 คัน เฉี่ยวชนกันและเสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าที่ถ.กะโรม หน้าโรงเรียนนครอาชีวศึกษา ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต็กตึ้ง ประชาร่วมใจ และกู้ภัยนคร
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทาดำ ทะเบียน บว-7719 นครศรีธรรมราช ชนเสาไฟฟ้าจนหัก สภาพรถพังยับเยิน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 2 คน ติดอยู่ภายในซากรถกระบะ เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องตัดถ่างมางัดนำร่างผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บออกมา ก่อนนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช แต่คนเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตที่ โรงพยาบาลในเวลาต่อมาอีกราย รวมผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว 2 ราย
นอกจากนี้ ยังพบรถยนต์คู่กรณี ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขน-6773 สงขลา จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน ล้อหน้าด้านขวาพังเสียหาย โดยมีนายอนุวัฒน์ พงศ์ทองเมือง อายุ 22 ปี นักศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ไม่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนแฟนสาวคือ น.ส.สุวดี ขำเพ็ง อายุ 18 ปี ที่มาด้วยกันได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชแล้ว
ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ในซากรถกระบะที่ชนเสาไฟฟ้าคือนายฉกาจ คงหวัง อายุ 46 ปี และผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลชื่อน.ส.ปัทมาวดี คงหวัง อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นพ่อลูกกัน อยู่บ้านเลขที่ 40/3 ม.3 ต.คลองท่อมเหนือ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ส่วนผู้บาดเจ็บที่มาด้วยกันคือ นางยุพา คงหวัง อายุ 36 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต โดยนางยุพาอาการสาหัส
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ฝนกำลังตกลงมา นายฉกาจได้ขับรถมาจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช มีน.ส.ปัทมาวดีและนางยุพานั่งโดยสารมากัน 3 คน ส่วนนายอนุวัฒน์ คู่กรณีขับรถไปรับน.ส.สุวดีที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพื่อกลับบ้านพัก ก่อนถึงที่เกิดเหตุนายฉกาจพยายามขับแซงรถนายอนุวัฒน์ แต่นายอนุวัฒน์ไม่ยอมให้แซงจึงเบียดกันไปเบียดกันมาเป็นระยะทางยาวเกือบ 1 กิโลเมตร
ถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์พ่วงข้างแล่นนำหน้ารถของนายอนุวัฒน์ จึงได้ขับเบี่ยงเพื่อหลบ ขณะเดียวกันรถของนายฉกาจมาถึงพอดี ทำให้เฉี่ยวชนกันอย่างจัง ทำให้รถของนายฉกาจเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า เป็นเหตุให้นายฉกาจและน.ส.ปัทมาวดีเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายอนุวัฒน์ไปสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
