ชาวบ้านระดมตามหา 2 พ่อลูก หลังพากันขี่จยย. เข้าไปดูต้นอ้อยในไร่ เจออีกทีกลางดึก ภาพสลดลูกชายวัย 7 ขวบ นอนเรียกร่างไร้วิญญาณพ่อ
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2564 ร.ต.ท.สุรศักดิ์ พันธุ์แก้วสว(สอบสวน)สภ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตในป่าอ้อย ที่บ้านทัพหมัน ม.3 ต.ทัพหลวง อ.บ้านไร่ จึงรุดไปตรวจชุดสืบสวนสภ.บ้านไร่ และกู้ชีพกู้ภัยบ้านไร่
ที่เกิดเหตุลึกเข้าไปในป่าอ้อย ข้างศพนายไววิทย์ กาฬภักดี อายุ 49 ปี โดยมีเด็กชายวัย 7 ขวบ ลักษณะเป็นเด็กพัฒนาการไม่ปกติ นั่งเรียกผู้ตายว่าพ่อ ๆ สภาพศพผู้ตายพบรอยเลือดอยู่บริเวณด้านหลังศีรษะ มีรอยมดกัดเต็มตัว สวมใส่เสื้อ สีฟ้า กางเกงขาสั้น สีดำ สะพายกระเป๋าคาดอยู่ที่ตัว ข้างกันพบต้นอ้อยหักคล้ายถูกผู้ตายดึงก่อนล้ม จึงได้ตรวจโดยรอบที่เกิดเหตุพร้อมกับนำเด็กส่งกลับบ้าน
จากการสอบสวนน.ส.กรรณิกา อินทรสมบัติ อายุ 43 ปี ภรรยาของผู้ตาย ให้การว่า สามีมีอาชีพทำไร่อ้อยมาหลายปี สุขภาพร่างกายแข็งแรง ก่อนเกิดเหตุวันที่ 3 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 15.00 น. สามีได้เข้าไปดูไร่อ้อยโดยได้พาลูกชายวัย 7 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กพัฒนาการช้า ขึ้นรถจยย. พ่วงข้างไปด้วยกัน ต่อมาเวลา 20.00 น. ตนไม่เห็นทั้งสองกลับมา จึงเกิดเป็นห่วง
ตนได้ออกเดินตามหาแถวบ้านญาติพี่น้องก็ไม่พบ จากนั้นจึงได้ขี่รถจยย. ออกไปตามหาที่ไร่อ้อย เห็นแต่รถจยย. พ่วงข้างของสามีจอดอยู่ที่ทางเข้าไร่อ้อย ตนตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ ระหว่างนั้นเกิดลมพัดแรงตนจึงได้ขี่รถจยย. กลับบ้านไปบอกญาติพี่น้องให้ช่วยกันออกตามหา แต่หาเท่าไรก็หาไม่พบ จึงไปหาดูหมอดูในอ.บ้านไร่ หมอดูบอกว่าสามีและลูกยังอยู่ในไร่อ้อย
ต่อมาก็ได้มีชาวบ้านที่ออกตามหาไปพบศพสามีนอนเสียชีวิตอยู่ในไร่อ้อย พร้อมกับลูกชายนอนเฝ้าอยู่ข้างเฝ้าศพตะโกนเรียกแต่พ่อ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ พร้อมกับนำร่างสามีไปตรวจพิสูจน์ศพหาสาเหตุที่รพ.บ้านไร่ เนื่องจากช่วงกลางคืนในป่าอ้อยไม่มีแสงสว่าง ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานค่อนข้างลำบาก จึงรอเวลารุ้งเช้าจึงมาตรวจในที่เกิดเหตุอีกครั้ง
ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 4 ส.ค. 64 ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยของการต่อสู้ คาดว่าผู้ตายน่าจะหงายหลังหัวฟาดพื้นกับร่องอ้อยเป็นเหตุให้เสียชีวิต คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง เบื้องต้นทางญาติก็ไม่ได้ติดใจการเสียชีวิต จึงได้มอบให้ญาตินำศพไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป
