รวบสาวไทย พร้อมสามีพม่า ขับเก๋งรับจ้างขนแรงงานเถื่อน หัวละ 2,500 บาท จากชายแดนส่งนายหน้าในไทย พร้อมจับกุมผู้นำพาชาวพม่าได้อีก 4 คน
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผู้บังคับกองร้อย ตชด. 146 สั่งการให้ ร.ต.ท.มนตรี ตรีสุวรรณ หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าว พร้อมด้วย ด.ต.ดำเนิน คุ้มสา นำกำลังลงพื้นที่ หลังสืบทราบว่ามีกลุ่มแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง บริเวณช่องทางธรรมชาติ ด้านทิศเหนือของด่านสิงขร (ช่องสปิลเวย์) หมู่ 6 บ้านด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
ขณะเจ้าหน้าที่หมวด ตชด.1464 ฐานปฏิบัติการบ้านด่านสิงขร ออกลาดตระเวนบริเวณช่องทางธรรมชาติด้านทิศเหนือของด่านสิงขร (ช่องสปิลเวย์) สังเกตเห็นบุคคลต่างด้าว จำนวน 5 คน เดินลงมาจากเทือกเขาตะนาวศรี มุ่งหน้าไปยังถนนเขื่อนสปิลเวย์ และพักคอยอยู่ชายป่าข้างถนนเขื่อน(ช่องสปิลเวย์)
เจ้าหน้าที่จึงทำการดักซุ่มสังเกตุการณ์บริเวณใกล้เคียง ต่อมามีรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีดำ ทะเบียน กท 6036 เพชรบุรี ขับมาจอดตรงจุดดังกล่าวแล้วรับตัวคนต่างด้าว 3 คนขึ้นรถยนต์ ส่วนอีก 2 คน กำลังจะเดินกลับขึ้นเทือกเขาตะนาวศรี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและจับกุมบุคคลต่างด้าวทั้งหมด พร้อมรถยนต์คันดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่า คนขับรถเก๋งชื่อนายจอมิว ตุ อายุ 31 ปี สัญชาติเมียนมา มี น.ส.แก้วตา แสงอุบล อายุ 48 ปี สัญชาติไทย ชาว อ.ปราณบุรี ซึ่งเป็นภรรยา นั่งข้างคนขับ ส่วนบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองอีก 5 ราย ประกอบด้วย นายหน่าว หน่าว อายุ 34 ปี, นายแยตู อายุ 32 ปี, นายอ่าวซันวิน อายุ 31 ปี, นายซันสินอ่าว อายุ 21 ปี และนางตัน ตัน ไข่ อายุ 29 ปี
จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าสาธารณสุข อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากโพรงจมูกเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนนำตัวไปกักกันที่สถานกักกันรูปแบบเฉพาะองค์กร ภายในกองร้อย ตชด.146 ด่านสิงขร โดยอาศัยอำนาจเจ้าพนักงานควบคุมโรค ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อพ.ศ.2558 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายหน่าวหน่าวและนายแยตู อาศัยอยู่บ้านมูด่อง ห่างจากชายแดนไทย-เมียนมา 3 กิโลเมตร ได้รับการว่าจ้างจากนายมอณ ซึ่งเป็นนายหน้าฝั่งประเทศเมียนมาให้นำแรงงาน 3 คน ไปส่งยังชายแดนบริเวณจุดเกิดเหตุ ได้รับค่าจ้างหัวละ 1,500 บาท ก่อนติดต่อให้นายจอมิวตุ และ น.ส.แก้วตา ซึ่งอยู่ในประเทศไทย มารับช่วงขนแรงงานไปส่งที่ยังจุดนัดหมาย บริเวณสะพานลอยบ้านหนองบัว ถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับค่าจ้างคนละ 2,500 บาท โดยจะมีนายหน้ามารับต่อไปอีกทอดหนึ่ง
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหานายจอมิวตุ และ น.ส.แก้วตา ในข้อหาร่วมกันช่วยเหลือซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ พ้นจากการจับกุม (ม.64) พร้อมแจ้งข้อหานายหน่าวหน่าวและนายแยตู นำหรือพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่บุคคลต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ(ม.63) ส่วนแรงงานต่างด้าวที่เหลืออีก 3 ราย ถูกแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าว(สัญชาติเมียนมา) ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
Advertisement
ด้าน พ.ต.อ.เสมอ อยู่สำราญ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ภายหลังการจับกุมดังกล่าว ปรากฏว่าขณะกำลังควบคุมตัวและตรวจหาเชื้อโควิด-19 มีบุคคลต่างด้าวซึ่งเป็นผู้นำพาโทรมาหาหนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งสามารถพูดภาษาไทยได้ เจ้าหน้าที่จึงบอกให้ผู้ต้องหาพูดคุยและบอกให้บุคคลดังกล่าวมาหา เพื่อพาไปทำงานตามที่ตกลงไว้
จากนั้นจึงส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดักรวบตัวมาได้เพิ่มอีก 2 ราย คือ นายตานิ อายุ 43 ปี อยู่ยะไข่ และนายโซอู้ อายุ 27 ปี แจ้งข้อหาช่วยเหลือซ้อนเร้นฯ ตรวจในตัวพบครอบครองยาบ้าอีก 13 เม็ด จึงคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
