2 พ่อเฒ่าชาวสุรินทร์ชนะคดี ได้ช้างพังโย พลัดพรากกันกว่า 18 ปีคืน หลังโดนขโมยขณะพามาทำงานที่กระบี่ อีก 14 ปีต่อมาเจอโผล่ปางช้างที่ภูเก็ต ฟ้องคดี 4 ปีจนศาลฎีกาตัดสินให้ชนะ
จากกรณี นายชอบ เรียงเงิน ได้ยืนฟ้องศาลจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอช้าง”พังโย” คืนหลังถูกขโมยไปเมื่อวันที่ 25 ม.ค.2546 ขณะทำงานอยู่ที่ จ.กระบี่ ต่อมาวันที่ 22 มี.ค.2560 เจอช้างพังโย อยู่ที่ปางช้าง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงนำหลักฐานตั๋วรูปพรรณช้างพังโย ออกโดยนายทะเบียนอำเภอชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ระบุไมโครชิพ 121-675-455 เอ ไปแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับช้างคืน แต่เจ้าของปางช้าง ไม่คืนให้เนื่องจากซื้อช้างมาราคา 1.4 ล้านบาทอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ล่าสุดเรื่องนี้ วันที่ 22 ก.ย.2564 ที่ศาลจังหวัดภูเก็ต นายวัน เรียงเงิน พี่ชายของนายชอบ เรียงเงิน ซึ่งได้รับมอบอำนาจให้มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา กล่าวภายหลังรับฟังคำพิพากษา ว่า รู้สึกดีใจมากที่จะได้ช้างกลับคืนมา เพราะความจริงก็คือความจริง เนื่องจากเราได้ติดตามช้างนับตั้งแต่หายไปเมื่อปี 2546 พยามติดตามจนเวลาผ่านไป 10 ปีเรื่องก็หายเงียบไป กระทั่งในปี 2560 ได้รับทราบว่า มีคนภูเก็ตซื้อช้างมาอยู่ที่ปาง จึงประสานตำรวจเพื่อไปดูช้างว่า ใช่พังโยหรือไม่ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ร่วมตรวจสอบ เพื่อตรวจสแกนไมโครชิพที่อยู่ในตัวช้าง แต่ได้รับการปฎิเสธว่า
“อยู่ต่างจังหวัดไม่สามารถมาได้ ทำให้ต้องไปร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต จนได้สแกนไมโครชิพแล้วพบว่า มีตัวเลขตรงกับตั๋วรูปพรรณช้างพังโย จึงขอคืนช้างแต่ก็ได้รับการปฎิเสธอีก บอกให้เอาเงินมาซื้อคืน จึงนำมาซึ่งการฟ้องร้องต่อศาล ศาลชั้นต้นฝ่ายตนแพ้ จึงขออุทธรณ์และศาลตัดสินให้ฝ่ายตนชนะ ต่อสู้กันมาจนถึงศาลฎีกา ซึ่งมีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ รวมระยะเวลาติดตามและต่อสู้คดีเป็นเวลา 18 ปี
หลังจากนี้จะนำคำพิพากษาไปประสานกับตำรวจ ให้ดำเนินเรื่องเพื่อขอช้างคืนตามคำพิพากษา เพราะตนคงไม่กล้าที่จะเข้าไปเอง หากเขายอมคืนให้จะหารถเพื่อนำกลับสุรินทร์ทันที แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเป็นอย่างไร จากระยะเวลาที่ต่อสู้มา มั่นใจว่าจะต้องได้ช้างคืน เพราะเรามีหลักฐานทุกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเลขไมโคชิพถูกต้องทั้งหมด นอกจากนี้หลักฐานยืนยันจากสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ จ.สุรินทร์ หากไม่มั่นใจคงไม่สู้มาเป็นเวลา 18 ปี เพราะแค่เห็นก็รู้แล้วว่า เป็นช้างที่เราเลี้ยงดูมา ” นายวัน ระบุ
