ผู้ว่าฯนครราชสีมา ออกประกาศด่วน อ่างลำเชียงไกรตอนล่าง น้ำล้นทะลัก แจ้งชาวบ้าน 9 อำเภออพยพไปที่ปลอดภัย ปชช.ริมน้ำ ที่ลุ่มต่ำ ให้เก็บของขึ้นที่สูง

เมื่อวันที่ 26 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ล่าสุดมวลน้ำเหนือสันอ่างเต็มพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ปริมาณน้ำกว่า 40 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 135 % เกินความจุกักเก็บ 27 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีปริมาณน้ำมากที่สุดในรอบ 50 ปี นับตั้งแต่ก่อสร้างอ่างเมื่อปี 2514

มวลน้ำฝนสะสมจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ไหลมาจากพื้นที่ตอนบน อ.ด่านขุนทด และ อ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา สมทบมาขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้อาคารระบายน้ำล้นปกติ ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างถูกกระแสน้ำกัดเซาะกำแพงปีกด้านขวาจนชำรุด ทำให้มวลน้ำไหลทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ชลประทานเตรียม “บิ๊กแบ็ค” หรือกระสอบทรายยักษ์ลงไปอุดรูรั่ว โดยรอให้กระแสน้ำไหลเบาลงกว่านี้

ทั้งนี้นายกอบชัย บุญอรณะ ผวจ.นครราชสีมา ออกด่วนที่สุดกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา ที่ นม (กปภจ)0021/ 6177 ถึงนายอำเภอด่านขุนทด นายอำเภอโนนไทย นายอำเภอพระทองคำ นายอำเภอเมืองนครราชสีมา นายอำเภอโนนสูง นายอำเภอพิมาย นายอำเภอชุมพวง นายอำเภอลำทะเมนชัย และนายอำเภอเมืองยาง และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ว่า

เนื่องจากปริมาณน้ำจากลำเชียงไกร ตอนบน และลำน้ำสาขามีปริมาณเป็นจำนวนมากและระบายลงอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง จึงมีความจำเป็นต้องระบายเพิ่มลงลำน้ำเดิม 66.43 ลบ.ม. ระบายน้ำอาคารระบายน้ำฉุกเฉิน101.72 ลบ.ม. รวมการระบายน้ำ 168.15 ลบ.ม. ส่งผลให้ระดับน้ำในลำเชียงไกร ลำน้ำสาขามีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริม 2 ฝั่งลำน้ำ และพื้นที่ริมตลิ่ง กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา พิจารณาแล้วขอให้ดำเนินการ ดังนี้

1.ให้อำเภอด้านท้ายอ่าง รวม 9 อำเภอ แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบถึงสถานการณ์อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายสูง เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการควบคุมสถานการณ์ ให้อพยพไปยังสถานที่ปลอดภัยในระดับสีส้ม โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ริมน้ำ และที่ลุ่มต่ำ ให้เก็บทรัพย์สินสิ่งของจำเป็นขึ้นไว้ที่สูงกว่าที่เคย ระวังติดตามมวลน้ำไหลเชี่ยวแรง ดูแลเด็กเล็กและคนชรา ผู้ป่วยติดเตียง

2.ประสานท้องถิ่น ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดสำคัญทางเศรษฐกิจ จัดหาและสนับสนุนกระสอบทราย ให้กับประชาชนเพื่อปิดกั้นน้ำเข้าบ้านเรือนและพื้นที่สำคัญ จัดรถกระจายข่าวแจ้งเตือนประชาชน ให้ทั่วถึง และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ ประสานกำลังพลสนับสนุนการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงที่เตรียมไว้ล่วงหน้า จัดตั้งโรงครัว หรือครัวพระราชทานเพื่อดูแลผู้ได้รับผลกระทบและเจ้าหน้าที่

3.ให้ความสำคัญในการแจ้งให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึง ขอให้ติดตามข้อมูล ข่าวสาร และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างใกล้ชิด

4. กรณีการอพยพประชาชน ขอให้ไม่ต้องห่วงทรัพย์สิน ควรให้ความสำคัญกับความ ปลอดภัยในชีวิต และความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

5.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง จะมีการจัดชุดลาดตระเวนตรวจตรา ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันผู้ฉกฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สิน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน