ตาโฉดลวงเหลนวัย 15 เข้ารีสอร์ท ย่ำยีถ่ายคลิปขู่แบล็คเมล์เกือบ 2 ปี แม่ร้องคดีไม่คืบ ช็อกเป็นญาติแต่ทำร้ายกันได้ลงคอ อยากให้ดำเนินคดีถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี พร้อมด้วย น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี บุตรสาว ซึ่งยังเรียนอยู่ชั้น ปวช.ปี 3 สถาบันแห่งหนึ่ง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ร้องเรียนว่า บุตรสาวถูกนายเขียว หรือกำนันเขียว (นามสมมติ) อายุ 57 ปี กำนันตำบลแห่งหนึ่ง อ.ขุนหาญ ลวงไปขืนใจที่รีสอร์ท และมีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ขุนหาญ เมื่อเดือน พ.ค. 2564 แต่จนถึงขณะนี้คดียังไม่คืบหน้า
น.ส.เอ เล่าว่า ตนมีสามีและลูก 2 คน เป็นชาย 1 คน อายุ 3 ขวบ และหญิง 1 คน อายุ 17 ปี เมื่อช่วงประมาณปี 2562 ขณะที่ น.ส.บี อายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ กำนันเขียว ซึ่งเป็นเครือญาติ มีศักดิ์เป็นตาของลูกสาว มีบ้านอยู่ฝั่งตรงข้าม และมีภรรยาแล้ว ออกอุบายชักชวนลูกสาวไปเกี่ยวหญ้าที่สวน โดยบอกว่าจะมีน้องชายและแม่ออกไปด้วย ลูกสาวจึงยอมขึ้นรถไปด้วย เมื่อขับรถออกจากบ้านไปได้ไม่นาน กำนันเขียวได้หยิบขวดน้ำดื่มยื่นให้ลูกสาว พร้อมกำชับให้ดื่มน้ำ เมื่อดื่มน้ำไปแล้ว ลูกสาวรู้สึกง่วงนอนสะลึมสะลือ จากนั้นก็หลับไปไม่รู้ตัว กระทั่งรู้สึกตัวอีกทีปรากฏว่ามานอนเปลือยกายอยู่ในรีสอร์ท พร้อมกับกำนันเขียว
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า กำนันเขียวได้พูดจาข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะนำคลิปที่แอบถ่ายไว้ไปประจานให้อับอาย ลูกสาวรู้สึกช็อกร้องไห้และหวาดกลัวพูดอะไรไม่ออก หลังจากนั้นกำนันเขียวก็ใช้คำขู่เดิมเพื่อขอหลับนอนกับลูกสาวมานานเกือบ 2 ปี ด้วยความเป็นแม่ตนรู้สึกถึงความผิดปกติของลูก เพราะค่อนข้างซึม เงียบเหงา พูดน้อยและไม่ค่อยร่าเริง จึงพยายามเค้นถาม แต่ลูกสาวบอกว่าไม่มีอะไร
น.ส.เอ กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2564 เวลาประมาณ 09.00 น. ขณะที่ลูกสาวกำลังฝึกงานที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.ขุนหาญ กำนันเขียวได้โทรชักชวนไปรีสอร์ท โดยนัดพบกันเวลา 13.00 น. กำนันเขียวได้ขับรถยนต์มาจอดรับแล้วพาไปรีสอร์ท ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จนลูกสาวทนพฤติกรรมของนายเขียวไม่ไหว ลูกสาวจึงโทรมาแจ้งให้ตนไปช่วยเหลือ
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า เมื่อไปถึงที่รีสอร์ทดังกล่าว ตนถึงกับช็อกเมื่อพบกำนันเขียวอยู่กับลูกสาวตนในห้องสองต่อสอง ไม่คาดคิดว่าคนใกล้ตัวและยังเป็นเครือญาติกัน จะทำร้ายกันได้ลงคอขนาดนี้ ไม่เว้นแม้กระทั่งหลานเหลน กำนันเขียวกล่าวแค่ขอโทษ พร้อมหันไปต่อว่าลูกสาวว่า “ไม่น่าทำกับตาอย่างนี้ โทรไปบอกแม่ทำไม”
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า จากนั้นตนได้พาลูกสาวไปตรวจภายในที่ รพ.ขุนหาญ เพื่อเป็นหลักฐาน และเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเขียวจนถึงที่สุด แต่เวลาผ่านไปกว่า 4 เดือนแล้ว คดียังไม่คืบหน้า