ตร.ขอนแก่น คุมทำแผนฯ นาที! โจรขาเทียม งัดรถ-รีสอร์ตนักตะกร้อทีมชาติ
จากกรณี โจรขาเทียม ย่องขโมยทรัพย์สิน รีสอร์ต พรชัย เค้าแก้ว นักตะกร้อทีมชาติชื่อดัง ซึ่งมาเป็นลูกเขยชาว อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น โดยยังได้ล็อกกุญแจขังเหยื่อในห้อง แต่ดันพลาดลืมไม้ค้ำยันที่แปลงเป็นปืนไว้ท้ายรถกระบะเหยื่อ จับได้ยังปฏิเสธ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
อ่านข่าว โจรขาเทียม ย่องขโมยของรีสอร์ตนักตะกร้อทีมชาติ ขังเหยื่อในห้อง พลาดลืมไม้ค้ำยันแปลงเป็นปืนไว้
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 ต.ค. 2564 พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายศุภชัย อายุ 38 ปี ชาว ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น หนุ่มพิการขาขาดต้องใส่ขาเทียม ผู้ต้องหามาชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้เมื่อช่วงค่ำของเมื่อวานที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ภายในห้องพักในเขต เทศบาลมัญจาคีรี
โดยจากการตรวจค้นขณะเข้าจับกุมพบอาวุธปืนแก๊ปสั้นอีก 1 กระบอกซุกซ่อนอยู่ในผ้าห่มบนเตียง ซึ่งเจ้าตัวนั่งทับไว้ รวมทั้งอุปกรณ์ทำอาวุธปืน เครื่องเชื่อม เครื่องตัดเหล็กอยู่ภายในห้องซึ่งปิดทึบมีหลอดไฟเล็กดวงเดียวและมีมีดซ่อนอยู่ตามซอกมุมต่างๆภายในห้องพัก
บรรยากาศตลอดการชี้จุด นายศุภชัย ยกมือขอโทษทุกคนจะไม่ทำอีก โดยยอมรับว่าลงมือขโมยเงินผู้เสียหายไปจริงเอาไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ แล้วก็กลับบ้าน ส่วนไม้ค้ำยันเป็นของตนเองจริง แต่ไม่รู้ว่าไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง อาจจะมีคนกลั้นแกล้งใส่ความ ก่อนที่นายศุภชัยจะเดินเข้าไปขอโทษผู้เสียหายอีกครั้งซึ่งผู้เสียหายก็ให้อภัยแต่เนื่องจากเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่มารดาของนายศุภชัย กล่าวยอมรับว่าลูกชายมีนิสัยไม่ดี พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมลูกชาย อยากให้เอาตัวไปดัดนิสัยนานๆ เผื่อกลับออกมาอาจจะกลับตัวกลับใจได้
ด้านพ.ต.อ.ยุทธนา กล่าวว่า ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาชี้ 2 จุด คือที่จอดรถหน้าห้องเช่าหญิงผู้เสียหาย ชาว จ.ขอนแก่น ซึ่งนายศุภชัยเข้ามาก่อเหตุขโมยเงินในรถไปประมาณ200 บาท แล้วปั่นจักรยานหลบหนีไป โดยยังได้เข้าไปภายในรีสอร์ทของนักกีฬาทีมชาติอยู่อยู่ใกล้กันรื้อค้นของในรถเจ้าของรีสอร์ทแต่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไปเพราะมีแต่เอกสาร แต่กลับเผลอลืมไม้ค้ำยันเอาไว้ที่ท้ายรถกระบะ จนนำไปสู่การจับกุมตัวได้ภายในบ้านซึ่งเป็นจุดที่ 2
ภายหลังการชี้จุดจะคุมตัวนายศุภชัย ส่งศาลจังหวัดขอนแก่น ฝากขังผัดแรกในข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและลักทรัพย์โดยผ่านสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดใด หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือเพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ต่อไป
ขณะที่ น.ส.รุ่ง (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล)ผุ้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนั้น ขณะจะออกเดินทางออกจากห้องพักไปทำงาน พอเปิดประตูออกมาก็ขนของขึ้นรถแล้วกลับไปเอาของในบ้านอีกรอบ พอออกมารอบสองก็พบกับนายศุภชัยยืนอยู่ข้างรถตนเองซึ่งจอดอยู่หน้าประตูห้อง พร้อมกับยืนอยู่ข้างจักรยานคันเล็ก จึงเห็นว่าไม่น่าไว้วางใจจึงกลับเข้าไปในบ้านและปิดประตู
กระทั่งผ่านไปประมาณ 10 นาที คาดว่านายศุภชัยจะออกไปแล้วจึงเปิดประตูออกมาดูเพื่อจะขนของขึ้นรถและออกไปทำงาน แต่ไม่สามารถเปิดประตูออกมาได้คาดว่าจะถูกใส่กุญแจล็อกจากด้านนอก จึงเรียกเจ้าของรีสอร์ทให้มาช่วยเปิด
พอเปิดได้ก็ไม่พบนายศุภชัยกับรถจักรยานแล้ว จึงขนของขึ้นรถและพบร่องรอยรื้อค้นข้าวของในรถกระจัดกระจาย เงินสดประมาณ 200 บาทที่เก็บไว้ในรถหายไป จึงเชื่อว่าจะเป็นนายศุภชัยที่ก่อเหตุขโมยไป หลังเกิดเหตุจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.มัญจาคีรี เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย