ทนายนิด้าเผยลัมโบร์กินีโดนชน โพสต์ยกหนี้ให้ มีข้อความกำกวม ไม่อาจสรุปได้ทันที เหตุเขียนขอเป็นหน้าที่ประกัน แต่ข้อความในเฟซมีผลทางกฎหมายได้
วันที่ 12 ต.ค.2564 น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือทนายนิด้าเปิดเผยถึงกรณีรถกระบะชนท้ายรถลัมโบร์กินี เป็นข่าวฮือฮา เมื่อเจ้าของไม่ติดใจว่า รถเป็นแค่ของนอกกายว่า ข้อความที่เจ้าตัวโพสต์ยังมีความกำกวม ไม่อาจตีความได้ว่า การไม่เอาความนั้น เป็นการไม่เอาความในรูปแบบใด
จากโพสต์ในเฟซบุ๊ก ก็ไม่อาจตีความได้ว่าเป็นการยกหนี้ หรืออาจจะตีความได้ว่าต่างคนต่างซ่อมรถของตัวเองไปเลย
อย่างไรก็ดีการเขียนว่าเป็นหน้าที่ประกัน ก็อาจตีความได้ว่า ให้ประกันรับผิดชอบ แต่ไม่เอาผิดกับเจ้าของรถกระบะ อาจจะให้ประกันรับผิดชอบ ทางเจ้าของรถอาจจะไม่ควักเงินจ่ายค่าซ่อมเองก็เป็นได้
หากประสงค์ที่จะให้ประกันซ่อมให้ ก็ต้องไปดูว่า เจ้าของรถแลมโบกินี่ได้ยกหนี้ให้เจ้าของรถกระบะหรือไม่ ปกติเวลารถชน ถือเป็นความผิดกฎหมายจราจร ต้องมีตำรวจมาตรวจสอบ มาลงบันทึกประจำวัน ดูว่ามีการชนแบบไหน ฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด ฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท
หากเจ้าของรถหรูประสงค์ให้ต่างคนต่างซ่อม ก็ถือเป็นสัญญาประนีประนอม ทางเจ้าของรถแลมโบกินี่ก็จะสิ้นสิทธิเรียกค่าซ่อมกับเจ้าของรถกระบะ
ดังนั้นเมื่อดูจากข้อความในโพสต์เฟซบุ๊ก ถือว่ายังมีการติดใจที่จะเอาค่าเสียหายในการซ่อมรถ ถ้าประกันของรถกระบะคุ้มครองแค่ 5 แสนบาท ประกันของรถกระบะจ่ายมาเต็มแล้ว แต่ยังขาดส่วนต่าง ก็ต้องไปเอากับเจ้าของรถกระบะอยู่ดี
อย่างไรก็ดีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาเรียกว่านิติเหตุ เป็นเหตุที่เกิดที่เกิดขึ้นโดยไม่ได่เกิดจากความสมัครใจ คนที่ชนจะมีสถานะเป็นลูกหนี้ทันที เมื่อเจ้าหนี้โพสต์ หรือพูด ว่ายกหนี้ให้ ก็ถือว่ามีผลสมบูรณ์ สามารถบังคับได้ตามนั้น
ดังนั้นคนที่มาชน หรือประกันของคนที่มาชนก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธการชำระหนี้ได้เลย เรื่องนี้ควรจะพิจารณาให้ดี ก่อนจะพูดหรือโพสต์อะไร เพราะมันมีผลทางกฎหมายทางสิ้น
